SNP NEWS

ฉบับที่ 559

Follow Us :     เพิ่มเพื่อน  

CEO ARTICLE

สิ้นมนต์ขลัง

“ความ … หลังยังเวียนวน … คลื่นสวาทมันแรง มันแกล้งมาดล ย้อน .. จนใจสั่น .. ”

ทันทีที่ผลการลงคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการในดึกวันที่ 24 มี.ค. 62 ออกมา ทำให้ หลายคนนึกถึงบทเพลง “หัวหินสิ้นมนต์รัก” ข้างต้นขึ้นมา
ตอนที่คุณอภิสิทธิ์ประกาศชัด ๆ ไม่สนับสนุนพล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อ คำว่า 3 ก๊กการเมืองก็เกิดขึ้นทันที แต่หลังการเลือกทำให้เห็นได้ชัดว่า ประเทศไทยไม่ได้มี 3 ก๊กการเมืองอย่างที่ว่า แต่มีเพียง 2 ก๊กเท่านั้น
คะแนนรวม 94%ณ วันที่ 24 มี.ค. 62 พรรคพลังประชารัฐที่หนุน พล.อ. ประยุทธ์ชัดเจนได้ 7,593,495 พรรคเพื่อไทยที่ต่อต้านชัดเจนได้ 7,376,371 ซึ่งอีก 6% อาจทำให้คะแนนพลิกผันได้
หากมองในภาพรวมทั้ง 2 ก๊ก ฝ่ายชื่นชอบคุณทักษิณ คะแนนทั้งประเทศของ พท. (พรรคเพื่อไทย) และ อนค. (พรรคอนาคตใหม่) รวมแค่ 2 พรรคได้ราว 13 ล้านเสียง
ขณะที่ฝ่ายต้านคุณทักษิณ คะแนนของ พปชร. (พรรคพลังประชารัฐ) และ ปชป. (พรรคประชาธิปัตย์) รวมแค่ 2 พรรค ได้ราว 11 ล้านเสียงโดยมีพรรคภูมิใจไทยที่ไม่แสดงทีท่าชัดเจนได้ราว 3 ล้านเสียง และพรรคเล็กอื่น ๆ อีกพอควร
ในปี 2556-57 ตอนกลุ่ม กปปส. ชุมนุมต่อต้านคุณทักษิณ คนเข้าร่วมมากโดยเฉพาะคน กทม. และภาคใต้
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ อารมณ์กลัวคุณทักษิณยังไม่หาย คนกลุ่มนี้มองว่า พล. อ. ประยุทธ์เอาอยู่ แต่คุณอภิสิทธิ์ที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีในเหตุการณ์ชุมนุมเสื้อแดงปี 2552-53 ไม่น่าจะเอาอยู่
คน กทม. และภาคใต้ที่ต่อต้านคุณทักษิณ แต่รัก ปชป. ก็เกิดความลังเลใจ
พอคุณอภิสิทธิ์แถลงไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น คนกลุ่มใหญ่ที่ลังเลใจหันไปเทคะแนนให้ พปชร. ทั้งที่เป็นพรรคเกิดใหม่จนมีคะแนนสูสีกับ พท. ทันที
นี่คือกระแสและอารมณ์ของคน กทม. และภาคใต้ ที่รวมไปถึงภาคอื่นในอารมณ์เดียวกัน
ก่อนการเลือกตั้ง ฝ่ายคุณทักษิณใช้ยุทธ์ศาสตร์แตกแบงค์พันเป็นแบงค์ร้อยกำเนิดพรรคในเครือมากมายโดยมี ทษช. (พรรคไทยรักษาชาติ) เป็นตัวชูโรง
ตอนนั้น นักวิจารย์มองว่าเป็นเกมของเซียนการเมืองจนคุณสุเทพต้องออกแรงช่วยต่อต้าน
ยุทธศาสตร์ที่ฝ่ายคุณทักษิณกำหนดคือ ให้ พท. ส่ง ส.ส. ราว 250 เขต ที่เหลือหวังได้ ส.ส. และคะแนนปาร์ตี้ลิสต์จาก ทษช. ที่เป็นประโยชน์จากรัฐธรรมนูญ 2560 ในระบบแบ่งสรรปันส่วน
หลังเหตุการณ์ 8 มี.ค. 62 ทำให้ ทษช. ถูกยุบ และทำให้ความหวังของคุณทักษิณดูเหมือนจะพังทลายตามไปด้วย
แล้วผลการเลือกตั้งก็ออกมา ประชาชนที่สนับสนุนคุณทักษิณก็ยังคงสนับสนุนต่อไป พท. ยังได้คะแนนในเขตที่ควรจะได้แม้จะเสียไปบ้าง
ส่วนคะแนนที่เตรียมให้ ทษช. แต่เมื่อ ทษช. ถูกยุบ คะแนนเหล่านี้ก็ยังอยู่ ไม่ได้หนีหายไปไหน คะแนนส่วนนี้กลับไหลไปรวมกับ อนค. ที่เริ่มมีกระแสแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มคนรุ่นใหม่
ในที่สุด อนค. จึงได้คะแนนรวมไปเกือบ 6 ล้านเสียง กลายเป็นพรรคอันดับ 3 เหนือ ปชป. ในชั่วข้ามคืน
เกมที่พลิกไปพลิกมาแล้วคะแนนก็ไหลมารวมที่เดิม ไม่ใช่ใครก็คิดได้มันต้องคิดอย่างเซียนเท่านั้น แต่สำหรับคุณทักษิณที่ยังมีไม้เด็ดลึกมากกว่านี้จึงกลายเป็นคนเหนือเซียนขึ้นมาทันที

“ความ … หลังยังเวียนวน …” เป็นเนื้อเพลงของหัวหินสิ้นมนต์รัก
ความหลังของประชาชนที่ต่อต้านคุณทักษิณก็ไม่ได้จางหายไปไหนเหมือนเพลงข้างต้น ยังเวียนวนอยู่ไม่หาย ดังนั้น ทันทีที่คุณอภิสิทธิ์ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯ ต่อไป วันนั้น ปชป. ในสายตาของคนลังเลใจก็สิ้นมนต์ขลังลงไปด้วย
คะแนนที่ได้ไม่ถึง 100 ตามที่ประกาศไว้ ทำให้คุณอภิสิทธิ์ต้องลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคในค่ำวันที่ 24 มี.ค. 62 ทันที
นักวิจารณ์หลายคนมองว่า นี่คือการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดของคุณอภิสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส. หน้าใหม่เด่น ๆ หลายคนไม่ได้แจ้งเกิด อดีต ส.ส. ดัง ๆ หลายคนต้องสอบตก
ปชป. ไม่ใช่พรรคที่เป็นมรดกของตระกูลใด ปชป. เป็นพรรคที่มีระบบการบริหารจัดการที่ดีอยู่แล้ว การตัดสินใจใด ๆ ต้องผ่านมติพรรค
ไม่มีใครตัดสินใจอะไรได้คนเดียวได้ ต่างจากพรรคที่มีบุคคลหรือตระกูลเป็นเจ้าของ ปชป. จึงเป็นสถาบันที่มีคนนับถือมาก เป็นพรรคที่มีมนต์ขลังในตัว
พอมาเจอการเมืองเหนือเซียนแบบคุณทักษิณที่มียุทธศาสตร์ซ่อนเงื่อน การตัดสินใจด้วยมติพรรคของ ปชป. จึงดูช้าเกินไป การตัดสินใจแบบฉับพลันที่คุณอภิสิทธิ์ทำให้ครั้งนี้ก็ดูเร็วเกินไปจนขาดการพิจารณาอย่างรอบครอบ
สุดท้าย ปชป. จึงย่ำอยู่ในความล่าช้าและความผิดพลาดอย่างที่นักวิจารณ์กล่าว
มนต์ขลัง ปชป. ก็สิ้นไปแล้ว คุณอภิสิทธิ์ก็ประกาศลาออกแล้วแต่ยังเป็นสมาชิกอยู่ และมีโอกาสเป็น ส.ส. ประชาชนที่ยังรักและศรัทธาก็ยังอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลง
เพียงแต่ว่าครั้งนี้ กระแสและอารมณ์ของคนทำให้เป็นเช่นนี้
การจะเล่นกับคนเหนือเซียนอย่างคุณทักษิณ นอกจากต้องคิดอย่างเซียนแล้ว ปชป. ยังจะต้องทำให้ได้ และทำให้เหนือกว่าเซียนอีกด้วย
แพ้แล้วก็แพ้ไป มนต์ขลังสิ้นแล้วก็สร้างใหม่ ครั้งนี้ ปชป. ต้องไม่ปล่อยให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ ต้องปรับปรุงยกใหญ่ คนที่จะทำยุทธศาสตร์พรรคต้องเป็นคนที่รู้และเข้าใจยุทธศาสตร์จริง ๆ
ยุทธศาสตร์พรรคจะสร้างมนต์ขลังให้กลับคืนมา
โครงการใหม่ ๆ เพื่อเรียกมนตร์ขลังให้กลับคืนต้องเริ่มบัดนี้ เริ่มทุกจังหวัด ส่วนจะต้องทำอะไรบ้าง ทำอย่างไร เชื่อว่าบุคลากรใน ปชป. มีความสามารถในการกำหนดได้อยู่แล้ว
หัวหินสิ้นมนต์ขลัง และมนต์ขลังของ ปชป. สิ้นแล้วก็ให้สร้างใหม่

ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร

LOGISTICS

ท่าเรือไมอามี (Port Miami)

เมืองไมอามีเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางด้านการค้าและถือว่าเป็นประตูทางการค้าของสหรัฐฯ ไปสู่ภูมิภาคอเมริกากลาง/ใต้ และแคริบเบียน เนื่องจากมีระยะทางการขนส่งที่ใกล้และสะดวก อีกทั้งยังมีท่าเรือน้ำลึกและสนามบินพาณิชย์สำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศด้วย โดยท่าเรือที่สำคัญที่สุดในรัฐฟลอริด้า คือ ท่าเรือไมอามี (Port Miami) ซึ่งท่าเรือไมอามีความสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆ ดังนี้
– สิ่งอำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ทางใต้ของรัฐเวอร์จิเนียที่มีร่องน้ำลึกถึง 50/52 ฟุตที่ขุดใหม่จากเดิมที่ลึกเพียง 42 ฟุต สามารถรองรับเรือสินค้าขนาดใหญ่ที่บรรทุกสินค้าได้ถึง 14,000 ตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมช่องทางออกสู่มหาสมุทรแปซิฟิกที่มีระยะทางเพียง 2.5 ไมล์ทะเล
– มีระบบตรวจจับสภาพทะเลและบรรยากาศ ด้วยความร่วมมือจากศูนย์อุปกรณ์และบริการด้านสมุทรศาสตร์ (CO-OPS) ของกองอำนวยการสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ท่าเรือไมอามีได้มีการติดตั้งระบบตรวจจับความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของทะเลแบบทันทีทันใด (PORTS) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 31 ระบบที่ติดตั้งไว้เพื่อตรวจจับความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลและชั้นบรรยากาศของเส้นทางสัญจรทางน้ำทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยให้นักบินและนักเดินเรือสามารถสัญจรเข้าออกจากท่าเรือไมอามีได้อย่างปลอดภัย – มีเครนขนาดใหญ่ใช้ลำเลียงสินค้าจากเรือสู่ฝั่ง 13 เครื่อง โดยมี 6 เครื่องเป็นแบบ Super Post-Panamax ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ สามารถขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือที่มีขนาดความกว้างของตู้คอนเทนเนอร์ถึง 22 ตู้และวางซ้อนได้สูงถึง 9 ตู้เหนือระดับดาดฟ้าเรือและลึกถึง 11 ตู้ใต้ระดับดาดฟ้าเรือโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องความสูง
– มีระบบรางขนส่งลำเลียงสินค้าเลียบท่าเทียบเรือที่เชื่อมโยงด้วยรางรถไฟกับระบบบริการขนส่งทางรถไฟ ที่สามารถทำให้ลดเวลาในการขนส่งสินค้าไปได้ทั่วทั้งรัฐฟลอริด้าและทั่วสหรัฐฯ โดยสามารถขนส่งสินค้าถึงร้อยละ 70 ของแหล่งสินค้าในสหรัฐฯ ได้ภายใน 4 วัน
– มีอุโมงค์ที่ใช้เชื่อมต่อกับระบบเส้นทางขนส่งทางถนนข้ามรัฐที่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาพื้นที่เขตเมือง โดยการจราจรถึงกว่าร้อยละ 80 ถูกเบี่ยงเบนออกจากเส้นทางสัญจรในตัวเมืองไปยังอุโมงค์ท่าเรือไมอามี รูปแบบของความร่วมมือแบบประชารัฐยังคงได้รับการยกย่องและให้รางวัลอยู่เสมอในด้านการออกแบบที่ล้ำสมัย แหล่งเงินทุนที่มีความสร้างสรรค์และแนวคิดด้านวิศวกรรมอันแหวกแนว

ท่าเรือไมอามีเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของ Miami-Dade County ซึ่งสามารถสร้างรายได้จากบริการอำนวยการกิจการท่าเรือ การสร้างงาน จำนวนเรือสินค้าและเรือสำราญที่มาใช้บริการ โดยรายได้ในปี 2561 มีมูลค่า 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ท่าเรือไมอามี ยังถือได้ว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งเรือสำราญของโลก (Cruise Capital of the World)” ด้วยเหตุที่มีสายเดินเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดและทำรายได้สูงที่สุดในโลก ภายใต้บริษัท Carnival Corporation & PLC, Royal Caribbean International ที่มีเรือสำราญขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ Norwegian Cruise Line มาตั้งที่ทำการอยู่ในท่าเรือไมอามี (โดยรวมมีเรือสำราญมาใช้บริการประจำถึง 51 ลำจากสายเดินเรือสำราญ 18 สายเดินเรือ) จากสถิติมีนักท่องเที่ยวที่มาขึ้นเรือสำราญที่ท่าเรือไมอามีถึง 5.7 ล้านคนต่อปี ซึ่งรายได้จากกิจกรรมทั้งหมดในท่าเรือมีสัดส่วนจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรือสำราญสูงถึงร้อยละ 70 ในขณะที่การขนส่งสินค้ามีสัดส่วนเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น

บริการสำหรับสายเดินเรือขนส่งสินค้าที่ท่าเรือไมอามี มีทั้งที่มาใช้บริการขนถ่าย ใช้บริการในบริเวณ Foreign Trade Zone และยังมีรายใหญ่บางรายที่ใช้พื้นที่เป็นสถานีขนถ่ายสินค้าในบริเวณท่าเรือด้วย สายเดินเรือขนส่งสินค้าและพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับบริการขนถ่ายสินค้าที่ดำเนินกิจการอยู่ในบริเวณท่าเรือไมอามี อาทิ APL, China Shipping, CMA-CGM, Evergreen Line, Hamburg Süd, Hapag-Lloyd, HMM, Maersk, MSC, Mitsui OSK Lines, NYK Lines, OOCL, POMTOC, Seaboard Marine, Sealand, South Florida Container Terminal, UASC, YM, ZIM เป็นต้น

สรุปจุดแข็งของท่าเรือไมอามี
– เป็นจุดเชื่อมโยงเส้นทางการขนส่งสินค้าทั้งเหนือใต้ ตะวันออกและตะวันตก
– เป็นท่าเรือน้ำลึกสำหรับเรือสินค้าแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกของสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับคลองปานามาที่สุด
– เป็นประตูสู่ตลาดฟลอริด้าที่มีฐานผู้บริโภคขนาดใหญ่ เพราะรัฐฟลอริด้าเป็นรัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของสหรัฐฯ ด้วยประชากรในท้องถิ่นกว่า 20 ล้านคนและนักท่องเที่ยวอีกกว่า 120 ล้านคนในแต่ละปี
– เป็นจุดเชื่อมโยงเส้นทางการบินกับทั่วโลกได้ผ่านท่าอากาศยานนานาชาติไมอามี ซึ่งให้บริการขนส่งสินค้าชุกเป็นอันดับหนึ่งและมีจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการมากเป็นอันดับที่สามในสหรัฐฯ
– มีเครือข่ายของเรือเดินสมุทรรายสำคัญ ๆ จากทั่วโลกมาใช้บริการที่ท่าเรือไมอามี
– มีภาคแรงงาน ฝ่ายกฎหมายและภาคธุรกิจที่เชื่อมโยงประสานกันอย่างเหนียวแน่น

ที่มา: www.ditp.go.th