SNP NEWS

ฉบับที่ 572

Follow Us :     เพิ่มเพื่อน  

CEO ARTICLE

ฟุตบอลโลก 2034

‘อาเชียน 10 ประเทศเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมฟุตบอลโลกในอีก 15 ปีข้างหน้า’

การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 ที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2562 เกิดข่าวเล็ก ๆ ข้างต้นขึ้น
ไม่ใช่ประเทศใดนึกอยากจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกก็เป็นได้ มันต้องมีการเสนอตัวแถมสมาพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือ FIFA ก็ยังต้องมีกระบวนการพิจารณา
ยิ่งไปกว่านั้น การเสนอตัวของประเทศใดก็ต้องมีจุดอ่อน จุดแข็งของตนเองประกอบการพิจารณา แม้จะเป็นเรื่องยากแต่หากมีความพยายาม เรื่องยากก็อาจไม่ใช่เรื่องยากเสมอไป
การมีแนวคิดเสนอตัวของกลุ่มประเทศอาเซียนครั้งนี้จึงเป็นการรวมจุดอ่อนจุดแข็งถึง 10 ประเทศ โอกาสที่จะได้เป็นเจ้าภาพก็ย่อมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
หากความพยายามสัมฤทธิ์ผล อีก 15 ปีข้างหน้าซึ่งเป็นปี 2034 หรือ พ.ศ. 2577 กลุ่มอาเชียนทั้ง 10 ประเทศได้เป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกร่วมกันจริง อะไรจะเกิดขึ้น ???
อาเซียนแต่ละประเทศมีทรัพยากรธรรมชาติ เศรษฐกิจ และจำนวนประชากรต่างกันมากแต่รวมได้ 640 ล้านคน (https://www.wegointer.com/2018/07/total-asean-populations/)
1. บรูไน (Brunei) 423,196 คน
2. กัมพูชา (Canbodia) 15,762,370 คน
3. อินโดนีเชีย (Indonesia) 261,115,456 คน
4. ลาว (Laos) 6,758,353 คน
5. มาเลเซีย (Malaysia) 31,187,265 คน
6. พม่า (Myanmar) 52,885,223 คน
7. ฟิลิปปินส์ (Philippines) 103,320,222 คน
8. สิงคโปร์ (Singapore) 5,607,283 คน
9. เวียดนาม (Vietnam) 94,569,072 คน
10. ประเทศไทย (Thailand) 68,863,514 คน

อาเซียน 10 ประเทศมีประชากรรวมกันถึง 640,492,584 คน หากพิจารณาความต่างแต่ละด้าน การต่อสู้กับประเทศมหาอำนาจแทบจะทำไม่ได้เลย แต่การนำทรัพยากรทุกประเทศ เศรษฐกิจของคนกว่า 640 ล้านคน สังคม และวัฒนธรรมมารวมกัน
การต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ฟุตบอลโลกเป็นกีฬาที่ชื่นชอบของคนเกือบทั่วโลก หากสังเกตช่วงมีบอลโลก 4 ปีครั้งจะมีข่าวคนค่อนโลกยอมอดนอน เฝ้าติดตาม รวมถึงเศรษฐกิจของประเทศเจ้าภาพที่ถูกกระตุ้นขึ้น
ในเวลา 15 ปีของการเตรียมการจะมีการก่อสร้าง การขนส่ง การรวบรวม การจัดเก็บ การเคลื่อนย้าย และการกระจายสินค้าซึ่งเป็นกิจกรรมใน Logistics การท่องเที่ยว การเงิน การประชาสัมพันธ์ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องจนทำให้เศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียน การพัฒนาทางสังคมและการเมืองเติบโตและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
มันจึงเป็นความฝันที่ใคร ๆ ก็ฝันได้ทั้งนั้น
แต่การจะทำความฝันให้เป็นจริงกลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง มันต้องมีแผนงาน วิธีการ การเอาจริงเอาจัง และความร่วมมือ
สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือ อาเซียนแต่ละประเทศต้องเร่งส่งเสริม ทุ่มเท สร้างความตื่นตัวให้กับวงการฟุตบอลจนเป็นที่ประจักษ์
การมีส่วนร่วมของเยาวชน บทบาทของสมาคม การส่งเสริมภาครัฐและเอกชน การให้รางวัล การจัดแข่งภายในและระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซี่ยนต้องมีอย่างต่อเนื่อง
มันคือส่วนหนึ่งของ ‘วิสัยทัศน์อาเซียน’
รัฐบาลทุกประเทศโดยเฉพาะรัฐบาลไทยควรใช้โอกาสนี้นำวิสัยทัศน์นี้ปฏิบัติอย่างจริงจังสร้างความตื่นตัวในหมู่ประชาชนแทนความเครียดที่เกิดจากการเมืองในเวลานี้
นี่คือโอกาสปลุกประชาชนให้ลุกขึ้นมาเสริมสร้างจุดแข็งให้เป็นจุดขาย สร้างความตื่นตัวในฟุตบอล แก้ไขจุดอ่อนของประเทศ
เวลา 15 ปี ไม่นานเลยในฐานะการพัฒนาประเทศ รัฐบาลจึงควรฉวยโอกาสนี้นำส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์อาเซี่ยนในครั้งนี้ออกสู่การปฏิบัติให้เป็นผู้นำอาเซียนสู่ฟุตบอลโลก 2034 ต่อไป

ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร

LOGISTICS

เขตเศรษฐกิจ Van Don, Vietnam จัดสรรงบลงทุนเพื่อการพัฒนา 357.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

คณะกรรมการประชาชนจังหวัด (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ได้ออกแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจ Van Don ตามข้อสรุป
ของนาย Nguyen Xuan Phuc นายกรัฐมนตรี โดยแผนดังกล่าวต้องการกว่า 8.35 ล้านล้านด่ง (357.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานจนถึงปี 2573 และมีเป้าหมายที่จะทาให้ Van Don เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนาม และ
ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

จังหวัด Quang Ninh จะจัดสรร 2.4 ล้านล้านด่งจากงบประมาณประจำจังหวัดสำหรับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ในช่วงปี 2562-2568 จังหวัดได้เสนอขอเงินทุน 2.1 ล้านล้านด่งจากงบประมาณของรัฐ นอกจากนี้เขตเศรษฐกิจ Van Don จะ
ระดมเงินมูลค่า 350,000 ล้านด่งจากกองทุนที่ดิน และใช้รายได้จากการจัดเก็บงบประมาณของรัฐเพื่อการลงทุนใหม่ ซึ่งคาดว่า
ประมาณ 3.5 ล้านล้านด่งในช่วงปี 2569-2573

จังหวัด Quang Ninh ตั้งภารกิจสำคัญ 5 ประการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนา
โครงสร้างพื้นฐานของเขตเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วยระบบการขนส่งทางอากาศ ทางถนนและทางน้า รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน
ด้านการท่องเที่ยว

แผนการดังกล่าวเสนอให้ศึกษาการขยายขีดความสามารถของสนามบิน Van Don ให้มีผู้เดินทางมากกว่า 5 ล้านคน
และสินค้า 30,000 ตันภายในปี 2573

นอกจากนี้ จังหวัดฯ ยังเสนอให้ดึงดูดนักลงทุนในการสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์บนเกาะของจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่
การขนส่งระหว่าง Van Don และ Ha Long, Mong Cai และเกาะอื่นๆ รวมทั้งเร่งการก่อสร้างทางด่วน Van Don – Mong Cai
และสะพานที่เชื่อมระหว่างเมือง Cam Pha กับเขตเศรษฐกิจ Van Don

จังหวัด Quang Ninh ยังวางแผนที่จะสร้างเส้นทางเลียบชายฝั่งตามพื้นที่เมืองใหม่ของอ่าว Bai Tu Long และปรับปรุง
ถนนบนเกาะ Quan Lan – Minh Chau และเส้นทางเคเบิลคาร์จาก Cai Bau ถึงเกาะ Tra Ngo – Cai Lim

Van Don คาดว่าจะดึงดูดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางทะเลด้วย โดยประกอบด้วยท่าเรือ Hon Net – Con Ong
ท่าเรือเกาะ Cai Bau และท่าเรือท่องเที่ยวในเกาะ Minh Chau, Quan Lan, Ngoc Vung, Thang Loi และ Van Canh

แผนการดังกล่าวจะให้ความสำคัญกับการสนับสนุนนักลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ในด้านการท่องเที่ยวและรีสอร์ทคอมเพล็กซ์
ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนเสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทุนสาหรับการก่อสร้างโรงแรมระดับไฮเอนด์ในเขตเมือง Bai Dai และ Cai Rong
ภารกิจสาคัญอื่นๆ ได้แก่ การพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงที่ทันสมัย และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน

ที่มา: https://www.ditp.go.th/ditp_web61