CEO ARTICLE

ให้รักพิพากษา

Published on September 7, 2021


Follow Us :

    

อัยการเดือด ละคร ‘ให้รักพิพากษา’ บิดเบือนข้อเท็จจริง
ร้องให้ผู้จัดแก้ไขด่วน ชี้ไม่เข้าใจปรึกษาอัยการสูงสุดได้

มติชนออนไลน์ขึ้นหัวข่าวข้างต้นเมื่อ 12 ส.ค. 64 ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ละคร ภาพยนตร์ หรือนิยายบทใดกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรอื่น การลุกขึ้นเรียกร้องความถูกต้องก็ย่อมเกิดขึ้น
ละครเรื่องนี้มีผู้ติดตามจำนวนมาก แม้จะจบลงแล้วในค่ำวันพุธที่ 1 ก.ย. 64 ที่ผ่านมาแต่ก็เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมอัยการจึงมีอิทธิพลและมีความสำคัญมาก ??
ประการที่ 1 การท้วงติงครั้งนี้เป็นเรื่องดี ทำให้ผู้ติดตามละครได้รับความรู้มากขึ้น เช่น
การจะเป็นอัยการต้องเรียนจบนิติศาสตร์ ต้องสอบเนติบัณฑิตก่อน ไม่ใช่นึกจะชวนทนายมาเป็นอัยการก็ชวนเลย หรืออัยการจะข้ามเป็นผู้พิพากษาก็ไม่ได้ มันคนละสาย มันต้องสอบต้องมีขั้นตอนอีกมาก หรือระหว่างการพิจารณาคดี อยู่ ๆ ทนายก็เรียกพยานขึ้นมาเป็นสิ่งทำไม่ได้ ต้องมีการยื่นรายชื่อพยานให้ผู้พิพากษาเห็นชอบก่อน เป็นต้น
ประการที่ 2 ทำให้ผู้ติดตามรู้จักคำว่า ‘อัยการ’ มากขึ้น หากได้ศึกษาเพิ่มเติมจะพบว่าการดำรงชีวิตประจำวันอาจเกี่ยวพันกับอัยการอย่างไม่รู้ตัว ดังนี้
บุคคลสามารถทำผิดได้หลายกรณีทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ เช่น การหมิ่นประมาท การทำให้เสียทรัพย์ เป็นต้น หากความผิดนั้นทำให้บุคคลใดเสียหาย บุคคลนั้นก็ฟ้องต่อศาลเรียกค่าเสียหายได้เป็นดาบที่ 1
หากผู้ทำผิดยอมรับผิด ขอโทษ และชดใช้ต่อผู้เสียหาย แม้จะฟ้องกันแล้ว แต่ก็ถอนฟ้องได้ หรือผู้เสียหายก็อาจยกโทษให้ หรือไม่เรียกร้องสิ่งใดก็ได้ มันเป็นความผิดระหว่างบุคคลกับบุคคลลักษณะ ‘ทางแพ่ง’ ภายใต้ ‘กฎหมายแพ่งและพาณิชย์’ ที่ให้มีการเจรจากันได้
การฟ้องจึงอาจรุนแรงหรือไม่รุนแรง แต่สุดท้ายก็ยังพอยอมความกันได้ในดาบที่ 1 นี้
แต่ความผิดอีกประเภทหนึ่ง กฎหมายห้ามกระทำเด็ดขาด ยอมความกันไม่ได้ เช่น ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ครอบครองสิ่งผิดกฎหมาย ทำร้ายร่างกาย ฆ่าคน แจ้งความเท็จ ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ฉ้อราษฎร์บังหลวง ชุมนุมลักษณะกฎหมายห้าม หรือนำข้อความเท็จลงในโซเซียล เป็นต้น
เมื่อกฎหมายห้าม แต่ใครทำ หรือเผลอทำ หากมีบุคคลใดเสียหาย บุคคลนั้นก็ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ตามดาบที่ 1 เช่นเดิม
ขณะเดียวกัน ในเมื่อกฎหมายห้ามทำไว้เด็ดขาด กฎหมายก็ต้องมีผู้ดูแลความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ดูแลนี้จึงต้องลุกขึ้นมาฟ้องผู้ทำผิดเป็นดาบที่ 2 ซ้ำอีก
ความผิดแบบนี้ถือเป็นลักษณะ ‘อาญา’ ภายใต้ ‘กฎหมายอาญา’ ที่ต่างจากลักษณะแพ่งและพาณิชย์ และผู้ดูแลความศักดิ์สิทธิ์ทางอาญาก็คือ ‘อัยการ’ ในเรื่อง ‘ให้รักพิพากษา’ นี่เอง
กฎหมายอาญาเป็นเรื่องระหว่าง ‘บุคคล’ กับ ‘แผ่นดิน’ มีไว้เพื่อป้องกันทรัพย์สิน สุขภาพ ความปลอดภัย ศีลธรรม และควบคุมความประพฤติของบุคคลให้เป็นกฎเกณฑ์สังคมในแผ่นดิน
อัยการทำหน้าที่เป็น ‘ทนายของแผ่นดิน’ สร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้กฎหมาย แม้ความผิดทางอาญานั้นจะไม่มีผู้เสียหายขึ้นมาฟ้องเป็นดาบที่ 1 เช่น ตัวเอกในละครที่ถูกใส่ความว่ามียาเสพติดในครอบครอง ไม่มีบุคคลใดที่เสียหายโดยตรง แต่ก็ยังถูก ‘อัยการ’ ฟ้องด้วยดาบที่ 2 อยู่ดี
ความผิดทางอาญาหากฟ้องแล้วถอนยาก มีบทลงโทษ 5 ประการคือ ปรับเงิน ริบทรัพย์ กักขัง จำคุก หรือประหารชีวิต สรุปคือ “เบา ๆ เสียทรัพย์ กลาง ๆ จำคุก หนักสุดก็ประหารชีวิต”
ส่วนในชีวิตจริง อัยการก็มีทั้งดีและไม่ดีตามข่าวที่พบเห็นทุกวันนี้
เมื่อรู้ถึงดาบ 2 และบทบาทของ ‘อัยการ’ เช่นนี้ คนทำงานในองค์กรต่าง ๆ จึงไม่ควรมักง่าย ไม่เผลอทำผิดในลักษณะอาญาอย่างไม่ตั้งใจ เช่น
ไม่มีการประชุมผู้ถือหุ้น แต่ทำรายงานการประชุมขึ้นเองเพื่อเปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัท หรือเพื่อกู้เงินสถาบันการเงิน การปลอมเอกสารทางราชการ การลงนามแทนผู้อื่นที่ตนเองไม่มีสิทธิ์ และอื่น ๆ ในการทำงานอีกมากเพื่อความสะดวก แต่เป็นความผิดลักษณะอาญา
หากไปเผลอทำ หรือไปเรียนแบบผู้อื่นที่ทำผิดอย่างไม่รู้ตัวก็อาจถูกดาบที่ 2 ฟันด้วยเหตุนี้

มันเป็นเรื่องปกติจริง ๆ ที่ละคร ภาพยนตร์ หรือนิยายมักต่อเติมเสริมปมต่าง ๆ ให้ดูตื่นเต้น เร้าใจ และชวนติดตามซึ่งก็ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของแต่ละประเทศและจินตนาการณ์ของผู้เขียน
ส่วนการท้วงติงด้วยความบริสุทธิ์ใจเช่นในครั้งนี้ก็ทำให้ผู้ติดตามเข้าใจบทบาทอัยการ เกิดการเรียนรู้ และการพัฒนาเนื้อหาให้ดีได้
ละครไทยไม่ได้ทำให้คนโง่ แต่คนที่มีทัศนคติต่างกัน มีวิสัยทัศน์ต่างกัน ก็จะมองละครและนิยายในมุมที่ต่างกัน เลือกดูละครและนิยายที่ต่างกัน และวิจารณ์ในมุมที่ต่างกันเท่านั้น

ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
CEO – SNP Group

อ่านบทความอื่นที่เขียนโดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร ได้ที่ http://snp.co.th/e-journal/

Date Published : September 7, 2021

Dr. Sitthichai  Chawaranggoon
Dr. Sitthichai ChawaranggoonChief Executive Officer (CEO) - SNP GROUP

Logistics

รัสเซียจะเริ่มเปิดเดินเรือตลอดทั้งปี ผ่านทะเลอาร์กติกภายใน 5 ปี

Aleksey Chekunov รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาตะวันออกไกลของรัสเซียและอาร์กติกประกาศว่า การก่อสร้างเรือตัดน้ำแข็งลำใหม่จะช่วยในการเดินเรือตลอดทั้งปีในเส้นทางทะเลเหนือ (Northern Sea Route) ภายในระยะเวลาห้าปี
ทั้งนี้ เส้นทางอาร์กติกจะประสบความสำเร็จในฐานะเส้นทางจราจรใหม่ของโลกได้ก็ต่อเมื่อมีการเปิดตัวการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอจากฝั่งตะวันออกไกลถึงเมืองมูร์มันสค์ (Murmansk) หรือ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg)

เส้นทางทะเลเหนือ (NSR) วิ่งไปตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรอาร์กติกของรัสเซียและไซบีเรีย เริ่มจากทะเล Kara ทางตะวันออกของเกาะ Novaya Zemlya ไปจรดช่องแคบแบริ่ง เส้นทางคมนาคมอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัสเซียในภูมิภาคอาร์กติก เส้นทางมีความยาว 5.5 พันกิโลเมตรและเป็นหนึ่งในสามเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมระหว่างภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียกับส่วนที่อยู่ในทวีปยุโรปของประเทศ ก่อนหน้านี้ทางการได้ประกาศแผนการที่จะปรับปรุงยกระดับระบบคมนาคมขนส่งทั้งหมดของรัสเซียภายในปี พ.ศ. 2573 รวมถึงเส้นทางรถไฟที่ให้บริการที่รวมทั้งเส้นทางรถไฟไบคาล-อามูร์และทรานส์-ไซบีเรีย ตลอดจนมอเตอร์เวย์ที่เชื่อมพรมแดนของรัสเซียตั้งแต่ประเทศฟินแลนด์ไปยังไซบีเรียตะวันตก จึงคาดว่า
เส้นทางขนส่งอาร์กติกจะกลายเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญอีกเส้นทางหนึ่ง ปริมาณสินค้าที่ขนส่งผ่านเส้นทางนี้คาดว่าจะเกิน 80 ล้านตันภายในปี พ.ศ. 2567 แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดระหว่างยุโรปและเอเชีย แต่โดยปกติแล้วจะปิดเป็น
เวลาหลายเดือน เนื่องจากผิวน้ำมีน้ำแข็งเป็นแผ่นหนา แต่กองเรือตัดน้ำแข็งใหม่จะสามารถนำร่องให้เรือลำอื่น สามารถเดินทางได้ตลอดทั้งปี

เส้นทางขนส่งทะเลเหนือเป็นเส้นทางที่จะช่วยร่นระยะทางได้มากจากฝั่งตะวันออกไกลไปยังยุโรป โดยเฉพาะประเทศจีน เกาหลี และญี่ปุ่น แต่เนื่องจากมหาสมุทรอาร์กติกมีอากาศหนาวเย็นและมีน้ำแข็งปกคลุมหนามากในช่วงฤดูหนาวจนเรือขนส่งสินค้าทั่วไปไม่สามารถแล่นผ่านได้ ต้องอาศัยเรือตัดน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์ที่มีราคาแพงและต้องใช้เวลาก่อสร้างนานเพื่อเจาะนำร่อง ประจวบเหมาะกับสภาพอากาศโลกที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้น้ำแข็งบางตัวลงและรัสเซียก็ได้พยายามเร่ง
ต่อเรือตัดน้ำแข็งเพิ่มเติมอีกหลายลำเพื่อจะทำให้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าสายหลักใหม่ของโลกจนสามารถแข่งขันได้กับเส้นทางการเดินเรือดั้งเดิมที่ผ่านคลองสุเอซ

หากพิจารณาดูจากตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทยหรือกลุ่มประเทศอาเซียนแล้ว ในกรณีที่ต้องการส่งสินค้าไปยังตลาดยุโรปจะเห็นได้ว่าเส้นทางทะเลเหนือหรือเส้นทางดั้งเดิม (ผ่านคลองสุเอซ) จะมีระยะทางไม่แตกต่างกันมากนัก
ส่วนประเทศในแถบเอเชียที่จะได้รับประโยชน์ชัดเจนคือจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ที่จะย่นระยะทางลงได้มาก อย่างไรก็ตามเส้นทางทะเลเหนือจะเป็นเส้นทางทางเลือกที่เพิ่มขึ้น และจะเกิดการแข่งขันกันมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการที่จะมีค่าขนส่งที่ถูกลง และในกรณีฉุกเฉินที่เส้นทางผ่านคลองสุเอซมีปัญหา อย่างเช่นที่มีเรือขนส่งสินค้าลำหนึ่งไปติดขวางอยู่จนเรืออื่น ๆ ใช้สัญจรไปมาไม่ได้เมื่อเร็วๆ นี้ ก็จะสามารถเลือกใช้เส้นทางทะเลเหนือเป็นเส้นทางสำรองได้

https://www.ditp.go.th/ditp_web61/article_sub_view.php?filename=contents_attach/752327/752327.pdf&title=752327&cate=413&d=0

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.