SNP eJournal

ฉบับที่ 462

Follow Us :     เพิ่มเพื่อน  

CEO ARTICLE

“ขายความสบาย”

ราคาขายเพื่อการส่งออกอยู่ที่เท่าไร ???

ปัจจุบันการค้าระหว่างประเทศไม่ใช่เรื่องยาก นอกจากรัฐบาลไทยจะส่งเสริมการส่งออกด้วยการให้เงินชดเชยภาษีส่งออกแล้ว รัฐบาลไทยยังให้มาตรการทางภาษีต่าง ๆ พิธีศุลกากรที่ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และระบบราชการที่เอื้ออำนวย

ความง่ายและความสะดวกสบายก็แต่เพียงแค่คลิกปลายนิ้วมือ

ใคร ๆ ก็สามารถทำได้เอง ผู้ส่งออกก็สามารถทำได้เองภายใต้เงื่อนไขเพียงข้อเดียวเท่านั้นคือ อย่าส่งข้อมูลผิดพลาด

ทำไมหรือ ?

พิธีการศุลกากรและระบบราชการต่าง ๆ พัฒนาเข้าสู่อิเล็คโทนิคมากขึ้น ข้อมูลที่เก็บและส่งผ่านกันด้วยกระดาษค่อย ๆ ลดบทบาทลงแล้วเปลี่ยนมาเป็นการส่งผ่านและการเก็บในอากาศแทน

เขาเก็บกันในระบบ ส่งผ่านกันในอากาศ หรือที่เรียกว่าสภาพไร้กระดาษ (Paperless)

ตอนที่เป็นกระดาษ เวลาส่งข้อมูลผิดพลาดไม่ว่าจะเกิดจากผู้ส่งเองหรือเกิดจากระบบ การแก้ไขก็ไม่ยาก มันมีต้นฉบับให้สัมผัส มีการยื่นคำร้อง มีการอนุมัติ และมีการนำต้นฉบับมาแก้ไข

พอมาอยู่ในสภาพไร้กระดาษ เมื่อผิดพลาด มันต้องเจาะลึกเข้าไปในระบบที่ซับซ้อนเพื่อแก้ไข การแก้ไขจึงซับซ้อนและยากขึ้นตามไปด้วย

แล้วไม่ใช่ใคร ๆ จะเข้าแก้ไขกันได้ง่าย ๆ

ข้อมูลเมื่อส่งผ่านไปแล้ว มันกลายเป็นข้อมูลทางราชการมันกลายเป็นความลับ หากมีการสำแดงเท็จ หรือหากมีภาษีอากรขาดชำระ ในทางกฎหมายถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว

ด้านหนึ่งการแก้ไขย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย และอีกด้านหนึ่งความผิดสำเร็จก็ต้องมีค่าปรับตามความผิดนั้นเป็นธรรมดา

มันเป็นวิวัฒนาการที่มีข้อดีมากกว่าข้อเสีย

วิวัฒนาการที่ว่านี้ทำให้ปัจจุบัน การขายสินค้าพ่วงความสะดวกสบายไปด้วยจึงไม่ใช่เรื่องยากลำบากแต่อย่างใด

การส่งออกในปัจจุบันที่ง่ายขึ้นทำให้ใคร ๆ ก็ทำการส่งออกกันได้ง่ายไม่ต่างกัน

ในอดีต เวลาลูกค้าต่างชาติจะขอราคาสินค้าเพื่อการส่งออก ผู้ส่งออกมักเสนอราคาง่าย ๆ ด้วยเงื่อนไขการส่งมอบแบบ F.O.B.

เงื่อนไข F.O.B. (Free On Board) ผู้ส่งออกก็แค่นำค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายสินค้าจากโรงงานผลิตของตนจนขึ้นดาดฟ้าเรือในประเทศไทยมารวมกันเท่านั้น

ค่าระวางเรือ (Freight) และอื่น ๆ ที่เหลือจนถึงต่างประเทศ ผู้ซื้อต่างประเทศจะเป็นผู้จัดการและจ่ายเอง

ผู้ส่งออกสบาย ไม่ต้องวุ่นวายด้วย แต่ไม่สร้างความประทับใจแก่ผู้ซื้อ

บางครั้ง ผู้ซื้อต่างประเทศอาจต้องการความสบายมากขึ้น ก็อาจขอให้ผู้ส่งออกเสนอราคาด้วยเงื่อนไขการส่งมอบแบบ C.I.F ไปเลย

เงื่อนไข C.I.F (Cost – Insurance – Freight) ผู้ส่งออกก็แค่เอาราคาค่าระวางเรือ (Freight) จนถึงท่าเรือปลายทาง และค่าเบี้ยประกันภัยทางทะเล (Insurance Premium) จากผู้รับประกันภัยรวมเข้าไปเท่านั้น มันง่าย สะดวก ใคร ๆ ก็ทำอย่างนี้ได้

เมื่อมันทำง่าย เมื่อมันสะดวก การแข่งขันก็ย่อมสูงตามไปด้วย

ทุกอย่างมันง่ายในวันนี้ การแข่งขันในทางการค้าจึงเริ่มมีผู้ส่งออกนำความสะดวกสบายมาควบขายรวมกับสินค้าเข้าไปด้วย

ปัจจุบัน หากผู้ส่งออกสามารถเสนอราคาสินค้าด้วยเงื่อนไขส่งถึงมือผู้ซื้อต่างประเทศ มันก็จะทำให้ผู้ซื้อต่างประเทศได้รับความสะดวก ความสบาย ไม่ต้องวุ่นวายติดต่อกับใคร

แค่สั่งซื้อ ตกลงวิธีการจ่ายเงิน แล้วรอรับของที่บ้าน หรือที่กำหนดปลายทางกันเลย

ส่วนผู้ส่งออกก็ไม่ต้องเหนื่อยยากอะไร เพียงสืบหาผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ (International Logistics Provider) ที่สามารถให้การบริการครบวงจรแบบส่งถึงจุดกำหนดปลายทางเท่านั้น

ยุคสมัยนี้ ธุรกิจเขาทำกันแบบหุ้นส่วนทางธุรกิจ (Business Partner) คนหนึ่งเก่งด้านหนึ่งอีกคนก็เก่งอีกด้านหนึ่ง 2 คนก็มาจับมือร่วมมือกัน

ผู้ส่งออกเก่งด้านการผลิต เก่งด้านการขาย ก็ผลิตและขายไปยังต่างประเทศ จากนั้นก็มาจับมือกับผู้ให้บริการโลจิสติสก์ของไทยที่สามารถให้บริการระหว่างประเทศครบวงจรให้มาเคียงคู่

จากนั้น ผู้ส่งออกก็ได้ราคาที่จะส่งถึงมือผู้ซื้อในประเทศหลัก ๆ นำมารวมกับราคาสินค้าที่พร้อมเสนอ ความสะดวกสบายต่อผู้ซื้อก็เกิดขึ้นแบบง่าย ๆ

เมื่อลูกค้าต่างประเทศถามว่า ราคาขายเพื่อการส่งออกอยู่ที่เท่าไร ???

ผู้ส่งออกของไทยก็สามารถเสนอราคารวมความสบายโดยการส่งถึงบ้านผู้ซื้อได้ ทั้งหมดนี้จะใช้เวลาในการหาราคาไม่นานนัก

วิธีการนี้ หากเริ่มใหม่ ๆ ก็อาจมีอุปสรรคบ้าง แต่เมื่อความชำนาญเกิดขึ้น การส่งออกของไทยก็จะมีวิวัฒนาการตามทันโลกอย่างไม่อายใคร

โลกปัจจุบันที่ขายสินค้าพ่วงความสะดวกสบายกันแล้ว

ราคาส่งออกจนถึงมือผู้ซื้อในต่างประเทศรวมภาษีนำเข้าในประเทศผู้ซื้อนี้ ปัจจุบันเรียกว่าราคา DDP (Delivery Duty Paid) หรือที่ในอดีตเรียก Door to Door นั่นละ

การขายรวมความสะดวกสบายนี้ นอกจากทำให้การขายมีเสน่ห์ขึ้นแล้ว ตัวผู้ส่งออกและผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจรของไทยก็จะมีวิวัฒนาการตามไปด้วย มีความสามารถในการต่อสู้กับต่างชาติได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน

Win Win คือสูตรความร่วมมือแบบหุ้นส่วนธุรกิจ (Business Partner)

ในเมื่ออะไรต่อมิอะไรทั้งส่วนราชการและเอกชนได้พัฒนาให้ง่ายขึ้นไปแล้ว คนไทยด้วยกันก็อย่าให้ผลประโยชน์จากความง่ายเหล่านี้ไปอยู่ในมือต่างชาติเลย

อย่าให้ต่างชาติเข้ามาฉวยความสะดวกสบายนี้ไปไปขาย

คนไทยด้วยกันทำได้

คนไทยไม่ได้มีความสามารถด้อยกว่าชาติอื่นเขา เพียงแต่ว่า คนไทยยังขาดความรู้ ความเข้าใจในองค์รวมจนทำให้การร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันน้อยลงตามไปด้วย

ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการส่งออกของไทย หรือการขายสินค้าควบคู่ความสบาย หรือการร่วมมือแบบหุ้นส่วนธุรกิจ ทั้งหมดนี้มันควรเป็นภารกิจของคนในวงการธุรกิจที่ต้องร่วมมือกัน

ผลได้เห็น ๆ อยู่

ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร

The Logistics

ไทย-จีน เชื่อมโยงทางรถไฟ สอดรับนโยบาย “Belt and Road Initiatives” 

ส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ที่สอดรับนโยบาย Belt and Road Belt and Road Initiatives คือ การพัฒนาทางรางรถไฟเส้นทาง กรุงเทพ –จีน ผ่าน สปป.ลาว

ที่ผ่านมา การก่อสร้างรางรถไฟเส้นทางดังกล่าวยืดเยื้อ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีความเห็นไม่ตรงกันในหลายประเด็น ในที่สุดเมื่อเดือนกันยายน  2559 ข้อตกลงในการดําเนินโครงการระยะแรกจะเริ่มในปี 2560

โดยที่ระยะแรกจะก่อสร้างรางรถไฟความเร็วสูงระยะทาง 256 กิโลเมตร เส้นทางกรุงเทพ-นครราชสีมา ใช้เวลาแล้วเสร็จประมาณ 3 ปี สําหรับระยะที่สองพัฒนารางรถไฟเส้นทางนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กิโลเมตร จะใช้เวลาประมาณ 2 ปี เมื่อการก่อสร้างรางรถไฟในส่วนของประเทศไทยแล้วเสร็จจะเชื่อมต่อไปยัง เส้นทาง สปป.ลาว (เวียงจันทน์) –จีน ระยะเวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง โดยจากเมืองเวียงจันทน์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังจีนโดยผ่านเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน จีน สําหรับระยะที่ 3 จะพัฒนารางรถไฟเส้นทาง สระบุรี – ระยอง ระยะทาง 246.5 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีแผนระยะยาวสําหรับพัฒนารางรถไฟเชื่อมไปยัง มาเลเซีย และสิงคโปร์อีกด้วย ทั้งนี้ ขบวนรถไฟและ ระบบสัญญาณไฟต่างๆ จะต้องซื้อจากจีนทั้งหมด

แม้บางกระแสความคิดเห็นว่า ยังมีประเด็นความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะต้องพึ่งพาอาศัยจีนมากเกินไป แต่โดยรวมแล้วโครงการพัฒนารางรถไฟดังกล่าวจะเพิ่มความเข้มแข็งให้กับประเทศไทยในเวทีอาเซียนและจีน เนื่องจากจะสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศให้แก่ประเทศต่างๆที่อยู่ในแถบเส้นทาง Belt and Road Initiatives

ที่มา: http://www.ditp.go.th/ditp_pdf.php?filename=contents_attach/168251/168251.pdf&title=168251