CEO ARTICLE
“ชิงชิง”
จีนหลอกจีนที่ไทยจะป้องกันอย่างไร ?
ต้นปี 2568 เกิดข่าวคนจีนใช้ประเทศไทยหลอกดาราจีน “ชิงชิง”
ก่อนหน้านั้น ข่าวจีนหลอกจีน และจีนปล้นจีนที่ไทยเกิดขึ้นหลายครั้ง แต่ไม่ดังเท่าข่าว “ชิงชิง” ผลที่ตามมาคือ สมาคมไทยบริการท่องเที่ยวคาดการจะมีนักท่องเที่ยวจีนลดลง 10-20% ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปลายเดือน ม.ค. 2568 และคอนเสิร์ต Fear and Dreams World Tour ที่จัดในกรุงเทพฯ วันที่ 22 ก.พ. 2568 ประกาศยกเลิกทั้งที่ตั๋วขายหมดแล้วตั้งแต่ปลายปี 2567
จากข่าวทำให้รู้ว่า คนจีนที่ถูกหลอก ส่วนใหญ่จะถูกหลอกว่ามีงานดี ๆ ในประเทศไทย สะดวกสบาย เมื่อมาถึงก็ถูกนำตัวขึ้นรถยนต์ผ่านด่าน ตม. ที่ชายแดนออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อไปถึง คนจีนที่ถูกหลอกจะถูกคนจีนด้วยกันทำร้าย ถูกบังคับ เช่น “ชิงชิง” ถูกโกนหัว และถูกฝึกให้ทำงานเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ เป็นสแกมเมอร์ และงานอื่นที่ผิดกฎหมาย
“ชิงชิง” เป็นดาราดังของจีน ข่าวจึงดัง และยิ่งสร้างกระแสความปลอดภัยที่ลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยลดลงในกลุ่มนักท่องเที่ยว กระทบต่อเศรษฐกิจที่ซบเซาของไทยยิ่งขึ้น
แม้การช่วยเหลือ “ชิงชิง” จะทำได้เร็วมาก เร็วเกินความคาดหมาย แต่ก็มีคำพูดเกิดขึ้นว่า “มันเป็นเรื่องของจีนหลอกจีน” ในทำนองไม่เกี่ยวกับคนไทย ทั้งที่ความจริง สถานที่หลอกอยู่ในไทย คนขับรถยนต์พาออกไปก็คนไทย และเจ้าหน้าที่ ตม. ชายแดนที่ปล่อยตัวออกไปก็คนไทย
ไม่แต่เพียงคนจีนที่ถูกหลอก คนไทยและชาติอื่นก็ถูกหลอกให้ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านเช่นกันโดยสหประชาชาติรายงานในปี 2566 ว่ามีคนถูกหลอกมากกว่า 100,000 คน
วันนี้ ประเทศไทยจึงกลายเป็นแผ่นดินที่ใช้หลอกลวงจนเสื่อมเสียชื่อเสียง
คนหลอกลวงกันจะหลอกที่ไหนก็หลอกได้ทั่วโลก
แต่พอมาหลอกที่ไทย คนขับรถพาออกชายแดนก็คนไทย ระหว่างทางก็มีคนไทยที่พบเห็น เผลอ ๆ อาจมีคนไทยร่วมในขบวนการ แบบนี้จะมาพูดว่าไม่เกี่ยวกับคนไทยได้อย่างไร ?
ตำรวจ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องคงไม่นิ่งเฉยแน่ ยิ่งการหลอกลวงส่งผลกระทบการท่องเที่ยว กระทบต่อเศรษฐกิจมากขึ้น รัฐบาลก็ยิ่งต้องทำอะไรมากขึ้น และต้องออกสื่อให้มากขึ้น
ข้อเสนอ 2 ข้อนี้เป็นสิ่งที่ควรทำ และควรออกสื่อให้รู้กันทั่วโลกโดยเร็ว
1. การประกาศให้รางวัล
คนขับรถที่พาคนถูกหลอกออกสู่ชายแดน ระหว่างทางยังมีพ่อค้า แม่ค้า มีเด็กปั้มที่พบเห็น รัฐต้องประกาศแนะนำวิธีการสังเกต การแจ้งเหตุ และเงินรางวัลมาก ๆ เพื่อจูงใจให้แจ้งเบาะแส
เมื่อได้รับแจ้ง ข้อมูลต้องรีบส่งไปถึงด่าน ตม. ต่าง ๆ โดยเร็วเพื่อให้คอยสังเกต
2. การฝึกเจ้าหน้าที่ ตม.
ทุกด่านที่เข้าและออกประเทศต้องมี ตม. (ตรวจคนเข้าเมือง) เป็นด่านแรก และเป็นด่านสุดท้ายท่ี่จะเห็นคนออกจากประเทศไทยด้วยความเต็มใจ หรือถูกหลอกให้ออกไป
คนต่างชาติที่ถูกหลอกให้มาทำงานในประเทศไทย ขณะกำลังจะผ่านด่านไปประเทศเพื่อนบ้านต้องรู้ตัวทันทีว่าถูกหลอกแน่ ๆ ต้องมีสีหน้า มีท่าทางที่ผิดปกติแสดงออกมา
รัฐต้องประกาศแผนการฝึกเจ้าหน้าที่ด่าน ตม. ฝึกให้สังเกตคน ดูท่าทางคน ต้องมองคนที่กำลังจะเดินผ่านออกไปให้ออก ให้สงสัย และให้แยกตัวเข้าห้องสอบถาม ให้เจ้าหน้าที่แจ้งข่าวเรื่องการหลอกลวงให้ห้องสอบสวนโดยการส่งหนังสือให้อ่าน หรือการใช้เครื่องแปลภาษา
ตัวอย่างการช่างสังเกต เช่น ด่าน ตม. ของเกาหลีใต้ มีการตรวจเข้มคนต่างชาติที่เข้าเมือง มีการแยกตัวเข้าห้องสอบสวน และมีการห้ามเข้าประเทศเพื่อป้องกันปัญหาผีน้อย
ด่าน ตม. ชายแดนไทยเป็นด่านสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่จะเห็นคนถูกหลอกถูกพาตัวออกไป
การประกาศเงินรางวัลให้มาก แผนการฝึกเจ้าหน้าที่ ตม. และการเอาจริงเอาจังให้คนทั่วโลกรับรู้จะเป็นการช่วยเหลือตำรวจในการจับกุม และกู้ชื่อเสียงประเทศไทยให้กลับคืนมา
รัฐบาลควรใช้กรณี “ชิงชิง” สร้างวิธีการป้องกัน และประชาสัมพันธ์ให้มาก
ข้อเสนอ 2 ข้อ หากทำได้เร็ว ให้เป็นข่าว และให้กระจายทั่วโลกจะเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาคนไทยถูกหลอกเป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ ลดปัญหาการใช้ประเทศไทยเป็นฐานหลอกลวง ช่วยคนชาติอื่น กู้ชื่อเสียงประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของไทยไปในตัว.
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
มีโฉนดแลกเงินด่วน ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.75% ต่อเเดือน ถูกกฏหมาย ทำที่กรมที่ดิน อนุมัติใน 3 วัน ไม่เช็คบูโร ติดต่อ https://inno-home.com/loan-lead/
อ่านบทความอื่นที่เขียนโดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร ได้ที่ http://snp.co.th/e-journal/
Date Published : January 28, 2025
Logistics
จีนปรับภาษีศุลกากร ส่องผลกระทบอุตสาหกรรมน้ำตาล-น้ำเชื่อม
จีนประกาศใช้แผนปรับภาษีศุลกากร ปี 2568
คณะกรรมมาธิการด้านภาษีศุลกากรแห่งคณะมนตรีรัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกประกาศ “แผนการปรับภาษีศุลกากร 2568” โดยมีการปรับอัตราภาษีนำเข้าและรายการภาษีสำหรับสินค้าบางประเภท ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป มีการลดภาษีนําเข้าสินค้าประเภทวัตถุดิบ ยา อุปกรณ์ ส่วนประกอบและชิ้นส่วน อีกทั้งปรับอัตราภาษีข้อตกลงและรายการภาษี ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการเพิ่มการนําเข้าสินค้าคุณภาพสูง ขยายอุปสงค์ภายในประเทศ ส่งเสริมการเปิดกว้างสู่โลกภายนอกในระดับสูง และส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูงอย่างจริงจัง
แผนดังกล่าวระบุว่า จะใช้อัตราภาษีนําเข้าชั่วคราวที่ต่ำกว่าอัตราภาษี MFN (Most-favoured-nation) สําหรับสินค้า 935 รายการ ประการแรก เพื่อสนับสนุนการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีให้นำไปสู่การพัฒนากำลังผลิตที่มีคุณภาพ จึงลดภาษีนำเข้ารายการสินค้าประเภทไซคลิกโอเลฟินโพลีเมอร์ (Cyclic Olefin Polymer) เอทิลีนไวนิลแอลกอฮอล์ (Ethylene Vinyl Alcohol) กระปุกเกียร์อัตโนมัติยานยนต์สำหรับใช้งานพิเศษ เช่น รถดับเพลิง รถยกลากรถเสีย เป็นต้น ประการที่สอง เพื่อรับประกันและปรับปรุงความเป็นอยู่ของประชาชนในระหว่างการพัฒนา จึงลดภาษีนำเข้ารายการสินค้าประเภทโซเดียมเซอร์โคเนียมไซโคลซิลิเคต (Sodium Zirconium Cyclosilicate) เวกเตอร์ไวรัส (Viral Vectors) ที่ใช้ในการรักษาเนื้องอกด้วย CAR-T รวมถึงลวดนิกเกิลไทเทเนียม (Nickel Titanium) ที่ใช้ในศัลยกรรมด้านการปลูกถ่าย ประการที่สาม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมือง “สีเขียว คาร์บอนต่ำ” จึงลดภาษีการนำเข้าสินค้ารายการประเภทอีเทน (Ethane) วัสดุโลหะผสมอลูมิเนียม-ทองแดงรีไซเคิลบางส่วน และอื่นๆ นอกจากนี้ เนื่องด้วยการพัฒนาของอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์อุปสงค์-อุปทานภายในประเทศ จึงมีแผนการเพิ่มภาษีศุลกากรสินค้าบางส่วน อาทิ น้ำเชื่อม (Syrup) และน้ำตาลผสมล่วงหน้า (Pre-mixed Powder) ไวนิลคลอไรด์ (Vinyl Chloride) ตัวกันแบตเตอรี (Battery Separator) เป็นต้น โดยอยู่ในขอบเขตคำมั่นสัญญาที่ประเทศจีนเข้าร่วมองค์การการค้าโลก เพื่อลดการพึ่งพาสินค้านำเข้า และส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศ
จีนปรับเพิ่มภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมล่วงหน้า
ตามข้อมูลจากศุลกากรจีน นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา สินค้าพิกัดศุลกากร 21069061 (น้ำตาลที่ได้จากอ้อยหรือหัวบีตในลักษณะของเหลวที่เติมสารปรุงกลิ่นหรือแต่งสี) และพิกัดศุลกากร 21069062 (ของผสมในลักษณะของแข็งอย่างง่ายของน้ำตาลที่ได้จากอ้อย หัวบีต และวัตถุดิบอาหารอื่นๆ ที่มีซูโครสมากกว่า 50%) มีปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะสินค้าพิกัดศุลกากร 21069062 ซึ่งเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมมีปริมาณการนำเข้าเกิน 2,000 ตัน ดังนั้น เพื่อลดการนำเข้าน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมล่วงหน้าตามพิกัดศุลกากรทั้งสองประเภทนี้ และปรับสมดุลอุตสาหกรรมน้ำตาลภายในประเทศ จีนจึงมีการปรับเพิ่มอัตราภาษี MFN จากเดิม 12% เป็น 20%
ผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อประเทศไทย และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ประกอบการไทย
แม้ว่าการปรับภาษีนี้จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำตาลจากไทยมายังประเทศจีนโดยตรง เนื่องจากตามกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับสมาคมประชาชาติอาเซียน น้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมล่วงหน้าภายใต้พิกัดศุลกากร 1702.90 ที่ผลิตจากประเทศในอาเซียน ยังคงใช้ภาษีนำเข้าเป็นศูนย์ แต่ที่ผ่านมาปริมาณการนำเข้าน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมล่วงหน้าของจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะไทย ราคาค่อนข้างต่ำ และมีสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร อีกทั้งน้ำเชื่อมเป็นน้ำตาลในลักษณะของเหลวที่มีความเข้มข้นสูง สามารถทดแทนน้ำตาลทรายได้ เมื่อเข้าสู่ตลาดก็สามารถเลี่ยงภาษีศุลกากรและการจำกัดโควตาได้ง่าย จึงเป็นการกดราคาน้ำตาลในประเทศ สร้างแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศจีนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ผลิตน้ำตาลแบบดั้งเดิม เช่น กว่างซี ยูนนาน เป็นต้น ปัจจุบัน รัฐบาลจีนได้เรียกร้องให้มีกระบวนการประเมินและตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารสำหรับผู้แปรรูปน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมล่วงหน้าของประเทศที่ส่งออกมายังจีนให้มีความเข้มงวดมากขึ้น และได้ประกาศระงับการนำเข้าสินค้าดังกล่าวมายังจีนชั่วคราว จึงเป็นที่ตั้งข้อสังเกตว่ามาตรการนี้อาจเกี่ยวเนื่องมาจากการปรับเพิ่มภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ไทยได้รับผลกระทบ และอาจเผชิญกับอุปสรรคด้านการส่งออกน้ำตาลและน้ำเชื่อม อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาไทยยังคงเป็นผู้นำในการส่งออกสินค้าประเภทน้ำตาลและน้ำเชื่อมไปยังจีน
น้ำตาลเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหว และเป็นสินค้าที่จีนกำลังจับตามอง เนื่องจากมีปริมาณการนำเข้าสูง สารให้ความหวานอื่นๆ ที่สามารถทดแทนน้ำตาลได้ เช่น น้ำเชื่อม น้ำตาลแปรรูปต่างๆ ที่ไม่มีการจำกัดโควตานำเข้า อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงในด้านการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายของจีน ดังนั้น ผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการที่อยู่ในห่วงโซ่อุตสาหกรรมนี้ควรติดตามสถานการณ์ตลาดภายในจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือกับความเสี่ยงและมองหาโอกาสใหม่ในการส่งออกสินค้า รวมถึงรักษามาตรฐานการผลิตและควบคุมคุณภาพสินค้าอย่างเข้มงวด
ที่มา: https://www.ditp.go.th/post/194106
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!