CEO ARTICLE
การตรวจสอบ
อดีตผู้พิพากษาฯ ตอกย้ำ
‘ประธาน ส.อ.ท. เก๊’ เข้าข่ายความผิด กม. เลือกตั้ง ส.ส. เผยโทษหนัก 1-10 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
วันที่ 21 ก.พ. 2562 ไทยโพสต์ (https://www.thaipost.net/main/detail/29646) ให้หัวข้อข่าวข้างต้น เนื้อหานำมาจาก Facebookของนายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาซึ่งสรุปได้ว่า
“นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จะปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ จะอ้างเจ้าหน้าที่ของพรรคกระทำไปโดยเข้าใจผิดไม่ได้ เพราะข้อความดังกล่าวอยู่ใน Website ของพรรคอนาคตใหม่มาถึง 5 เดือนเศษ”
ข่าวสรุปว่า ความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอาญาแผ่นดินที่มีโทษดังกล่าว
นายธนาธรกล่าวให้สัมภาษณ์ทางทีวียอมรับ และบอกว่า สาเหตุเกิดจากความเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่พรรคฯ ก่อนการเผยแพร่
“การตรวจสอบ” จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้อมูลผิดพลาดถูกเผยแพร่ออกไป
ความเสียหายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ใหญ่หลวงนักต้นเหตุมาจากการตรวจสอบ ซึ่งปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วมาก หากพลาดจากการตรวจสอบเพียงนิดเดียวอาจนำฝันร้ายมาชั่วชีวิต
“การตรวจสอบ”
ปัจจุบันถือเป็นหัวใจสำคัญสูงสุดในยุคข่าวสารข้อมูลที่มีความรวดเร็วสูง ข่าว ข้อมูล ภาพต่าง ๆ เมื่อเผยแพร่ออกไปโดยไม่มีการตรวจสอบซึ่งรวมถึงการกด Like กด Share ด้วย ความผิดพลาดและความเสียหายก็อาจตามมา
ยิ่งหากเป็นข่าวผิด ข้อมูลผิด ข่าวปลอม Fake news ก็ยิ่งทำให้ผู้กระจายข่าวต้องมีคดีความมากยิ่งขึ้น
ข่าวรัฐจะโอนเงินเข้าปัญชีประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฟรีๆ คนละ 3,000 บาท โดยจะจ่ายโดยตรงเข้าบัญชีธนาคารออมสิน
พอข่าวนี้กระจายออกไปก็ทำให้ประชาชนแห่เข้าแถวเปิดบัญชีจนล้นธนาคารให้วุ่นวาย
ความอยากได้เงินของประชาชนเกิดขึ้นแล้ว พอรู้ภายหลังว่าเป็นข่าวปลอม ไม่ได้เงิน บางคนที่ขาดเหตุผลก็พาลหงุดหงิดรัฐบาล
ผลที่ตามมาก็คือ พรรคการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาลเสียคะแนนนิยมตามไปด้วย
ข่าวบิ๊กแดง (พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์) ขายบ้านมูลค่า 240 ล้านบาท หรือข่าวนายกประยุทธ์กำลังร่วมมือกับบิ๊กแดงขยายการเกณฑ์ทหารออกไปเป็น 4 ปี และไม่มีการลาพักกลับบ้านก็เป็นข่าวปลอมที่ทำให้ท่านทั้ง 2 เสียชื่อเสียง และยิ่งเป็นช่วงการเลือกตั้งก็ส่งผลให้พรรคการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาลทหารเสียคะแนนนิยมไปเช่นกัน
หากพิจารณาแบบนี้ก็คงพอประเมินออกว่า ใครกันได้ประโยชน์และใครกันเป็นผู้สร้างข่าวปลอมเหล่านี้
การตรวจสอบข่าวทำได้ไม่ยาก เช่น การรอดูข่าวทางทีวีที่ทุกสถานีต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องก่อนที่จะออกข่าวเสมอ หรือการเข้า(Search ใน) Google เพื่อตรวจสอบจากเวปต่าง ๆ ก็ได้
วิชามารแบบนี้มักเกิดขึ้น ในช่วงเลือกตั้ง และแพร่หลายช่วงประชาธิปไตยเบ่งบานแบบไทย ๆ
ในโลกธุรกิจ การค้า โลจิสติกส์ และชีวิตประจำวันที่ผ่านช่องทาง Internet ก็ไม่ต่างกัน
การสั่งซื้อ การขาย การกระจายสินค้า การโอนเงินข้ามบัญชีที่ง่ายเพียงขยับนิ้วมือ ทั้งหมดนี้ทำได้ง่าย ๆ ด้วย Application ที่ทันสมัยเพียงปลายมือสัมผัส
ก่อนรับส่งข้อมูล หากไม่มี “การตรวจสอบ” อะไรจะตามมา ???
แน่นอนความเสียหายย่อมเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
ในธุรกิจตัวแทนออกของ (Customs Broker) ที่พบมากที่สุดก็คือ การส่งผ่านข้อมูลสินค้านำเข้าและส่งออกไปยังกรมศุลกากร
ข้อมูลสินค้าพร้อมพิกัด อัตราภาษี และข้อมุลอื่น ๆ เมื่อส่งไปแล้วหากมีข้อผิดพลาด แม้ไม่กระทบต่อผู้อื่น แต่ในทางกฎหมายถือว่าเป็นความผิดสำเร็จไปแล้ว
ความผิด การลงโทษ และความเสียหายก็ย่อมตามมาไม่ต่างกัน
การพัฒนาระบบของกรมศุลกากรเป็นไปรวดเร็วมาก เงื่อนไขที่ผู้ประกอบการควรทราบคือ ระบบที่พัฒนาแล้วเหล่านี้ล้วนต้องการ “ความถูกต้อง” สถานเดียว
ความรู้ ความเข้าใจทั้งในระบบพิธีการศุลกากรและกฎหมายย่อมเป็นสิ่งจำเป็นสูงสุด เมื่อใดที่ผู้ประกอบการมอบหมายให้พนักงานของตนเป็นผู้ส่งข้อมูลก็ต้องมั่นใจว่า ผู้ปฏิบัติงานของตนนั้นมีความรู้ มีความเข้าใจอย่างแท้จริง
มิฉะนั้น ผู้ประกอบการก็ย่อมหลีกหนีความผิดต่อกรมศุลกากรคล้าย ๆ กับกรณีคุณธนาธรไปไม่พ้น
หากไม่มั่นใจ อย่างน้อยผู้ประกอบการก็ต้องมีระบบ “การตรวจสอบ” อย่างที่ ISO กำหนดไว้คือ ผู้ตรวจต้องรู้ว่าควรตรวจอะไร และใครควรเป็นผู้ตรวจที่เหมาะสม
สิ่งที่ผู้ประกอบการมักเห็นจนชินตาก็คือ คนทำงานเป็นผู้ตรวจเอง อย่างนี้โอกาสที่จะตรวจพบข้อผิดพลาดโดยตัวผู้ทำงานเองก็มีน้อยลง
ผู้ทำและผู้ตรวจต้องเป็นคนละคนกัน
กรณีของคุณธนาธรและพรรคอนาคตใหม่เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย มันเป็นความผิดที่อธิบายได้แต่ก็หลีกหนีความรับผิดชอบไม่ได้ ในฐานะพรรคการเมืองก็ควรมีความพร้อมมากกว่านี้ ความผิดพลาดทั้งหมดเกิดจากการละเลย “การตรวจสอบ”
จนถึงบัดนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า ความผิดของพรรคอนาคตใหม่จะมีข้อยุติอย่างไรจนกว่าศาลจะมีคำสั่งออกมา
ข่าวรัฐบาลแจกเงิน 3,000 บาท ผ่านธนาคารออมสิน ข่าวนายทหารระดับสูงมีบ้านมูลค่า 240 ล้านบาท ข่าวการขยายเวลาทหารเกณฑ์เป็น 4 ปี ล้วนเป็นข่าวปลอมที่ได้รับการเปิดเผยจาก “การตรวจสอบ”
ความรวดเร็วของข่าวสารข้อมูลในโลกปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง ผู้ประกอบการ หรือประชาชน “การตรวจสอบ” ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญไปแล้ว
การละเลยการตรวจสอบก็อาจตามมาด้วยความผิดพลาด ความเสียหายก็อาจทำลายคน ทำลายองค์กร และทำลายอนาคตได้อย่างง่าย ๆ เพียงปลายนิ้วมืออย่างที่คุณธนาธรและพรรคฯ กำลังจะประสบอยู่ในเวลานี้
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
LOGISTICS
Hutchison Ports Thailand ต้อนรับปั้นจั่นยกตู้สินค้าชุดใหม่ในท่าเทียบเรือ ชุด D
บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย (HPT) ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้รับมอบปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่า จำนวนสามคัน และปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานแบบล้อยาง จำนวน 10 คัน เป็นครั้งที่สอง สำหรับโครงการท่าเทียบเรือ ชุด D โดยบริษัทฯ ได้รับมอบเครื่องมือทั้งสองชนิดครั้งแรก เมื่อเดือนมกราคม ปี 2018 ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน บริษัทฯ มีปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าขนาดใหญ่รวมจำนวนหกคัน และปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานรวมจำนวน 20 คัน โดยเมื่อโครงการท่าเทียบเรือ ชุด D เสร็จสมบรูณ์ จะมีปั้นจั่นยกตู้สินค้าหน้าท่าขนาดใหญ่ทั้งสิ้น จำนวน 17 คัน และปั้นจั่นยกตู้สินค้าในลานรวมทั้งสิ้นจำนวน 43 คัน เพื่อรองรับเรือบรรทุกตู้สินค้าขนาดใหญ่ที่สุดที่มีให้บริการในปัจจุบัน ทั้งนี้ เครื่องมือทั้งสองชนิด ผลิตโดยบริษัท SHANGHAI ZHENHUA HEAVY INDUSTRY (ZPMC) เมือง Shanghai ประเทศจีน
ที่มา: http://thai.logistics-manager.com/2019/02/06/hutchison-ports-thailand