CEO ARTICLE
กุนซือ
“2 จอมทัพ กับ 1 กุนซือ”
MGR Online นำข้อเขียนของคุณอัษฎาง ยมนาค นักประวัติศาสตร์ที่ได้โพสต์เรื่องราวของคุณทักษิณ ชินวัตร และ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยยกให้เป็น 2 จอมทัพ กับ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ โดยยกให้เป็น 1 กุนซือ
บทความกล่าวโดยสรุปทั้งคุณทักษิณ และ พล.อ. ประยุทธ์ต่างก็เป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนกัน และต่างก็มี ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นกุนซือเหมือนกัน
เนื้อหาชี้ให้เห็นว่า ความสำเร็จในโครงการประชานิยมและระบบเศรษฐกิจระยะแรก ๆ ของคุณทักษิณนั้นมี ดร. สมคิด ยืนเคียงข้าง และถือเป็นกุนซือที่สร้างความสำเร็จให้คุณทักษิณ
ขณะที่ พล.อ. ประยุทธ์ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมนักอันเนื่องมาจากความเป็นนายทหารที่ทำให้การมองและการตัดสินใจในเรื่องเศรษฐกิจต่างกับนักธุรกิจอย่างคุณทักษิณ แต่ก็พอมีผลงานทางเศรษฐกิจที่ดูดีได้และก็มีกุนซือคนเดียวกัน
ท่านผู้อ่านสามารถหาอ่านเพิ่มตามได้จาก MGR Online เรื่องนี้ไม่ว่าทั้งคุณทักษิณ และ พล.อ. ประยุทธ์จะยอมรับหรือไม่ก็ตาม แต่ในเวลานั้นและเวลานี้ก็มี ดร. สมคิด ยืนเคียงข้างจริง ๆ และเป็นเครื่องยืนยันความสำคัญของกุนซือ หรือที่ปรึกษาที่มีต่อการบริหารการจัดการ
สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า การที่พล.อ. ประยุทธ์ เป็นนายทหารก่อนจะเข้าสู่การเมืองมาเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านย่อมไม่เก่งเรื่องการเมือง ไม่เก่งเรื่องเศรษฐกิจ ไม่เก่งเรื่องการบริหารและการจัดการ
เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องมีกุนซือหลายด้าน กุนซือจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
เมื่อเกิดสถานการณ์ Covid-19 แพร่ระบาด ความรุนแรงที่ค่อย ๆ ทวีขึ้นและตามมาความวุ่นวายจากฝ่ายการเมืองในตอนต้น
พล.อ. ประยุทธ์ ตัดสินใจประกาศ พรก. ฉุกเฉิน และเลือกทีมแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ให้มาเป็นคณะทำงานและที่ปรึกษา
แน่นอน พล.อ. ประยุทธ์ ย่อมไม่มีความรู้ทางการแพทย์ ข้อมูลต่าง ๆ จึงได้มาจากคณะแพทย์ที่รวมไปถึงการแสดงความคิดเห็นทางทีวี จนทุกวันนี้คนไทยก็เห็น นพ. ทวีศีลป์ วิษณุโยธิน ออกทีวีจนเป็นที่ชื่นชอบของคนที่ยอมกักตัวอยู่บ้าน แต่ไม่ชื่นชอบจากฝ่ายการเมืองตรงข้าม
คณะแพทย์ให้คำแนะนำจน พล.อ. ประยุทธ์คุมสถานการณ์ได้ดี สร้างความแตกต่างจากประเทศอื่นเป็นที่กล่าวขวัญและยอมรับทั่วโลก จากนั้นก็ตามมาด้วยความช่วยเหลือประชาชนทางด้านเศรษฐกิจตามคำแนะนำของกุนซือด้านเศรษฐกิจต่อ
มาถึงวันนี้ พล.อ ประยุทธ์ทำหนังสือระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจจาก 20 มหาเศรษฐีของไทยผู้ที่ได้รับการยอมรับว่า “มีความสำเร็จ” สูงมาก
ไม่ว่าจะเป็นยุคคุณทักษิณ ยุค พล.อ. ประยุทธ์ หรือจะเป็นการบริหารของใครก็ตาม เมื่อความตึงเครียดคลี่คลายลง ผู้ที่จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปต้องเป็นเอกชนและผู้ประกอบการที่ต้องรับไม้ต่อเท่านั้น
สถานการณ์เหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำคัญของกุนซือหรือที่ปรึกษาที่มีผลต่อความสำเร็จของคนมากมายไม่ว่าจะทำงานอะไร ตำแหน่งอะไร และสถานการณ์อย่างไร
ใครเชื่อ ใครไม่เชื่อความสำคัญของกุนซือ และใครถูก ใครผิด เรื่องนี้ตอบได้ยาก มันขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์และทัศนคติของแต่ละคน
ไม่มีใครตอบได้ชัด ๆ ว่า การแพร่ระบาดของ Covid-19 จะยุติลงอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้คือ มันต้องจบไม่ว่าจะจบในแบบใด ความเปลี่ยนแปลงของโลกก็ได้เริ่มขึ้นและกำลังจะเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในไม่ช้านี้
ธุรกิจขนาดใหญ่ยังคงเติบโตได้ด้วยทุนหนา แต่ธุรกิจ SME ต้องลดขนาด อาจปิดกิจการจำนวนมาก การเก็บเงินเพื่อใช้ในยามจำเป็นจะมีให้เห็น ตลาดหุ้นจะแกว่งตัวบ่อยตามความอ่อนไหวของคน การว่างงานจะมากขึ้น การส่งออกด้านอาหารและสินค้าจำเป็นจะดีขึ้น
การระมัดระวังตัวของคนจะมากขึ้นทำให้พฤติกรรมการซื้อ การขาย การจ่ายเงิน และรูปแบบธุรกิจจะเปลี่ยนมาใช้แฟลตฟอร์มมากขึ้นรวมถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป
การประกาศลดอัตราอากร ลดภาษี การนำเข้า การส่งออก และกระบวนการโลจิสติกส์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็น
โลกกำลังเข้าสู่ “ยุคปั่นป่วน” หรือ “Disruptive World” หากทุก ๆ ธุรกิจหาทางรอดไม่ได้ก็ต้องปิดตัว
การบริหารและการจัดการด้วยคน ๆ เดียวอาจผ่านไปได้ แต่ก็มีทางเลือกที่ดีกว่า
การรวมตัวเป็นสมาคมเพื่อระดมความคิดเห็นก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่สมาคมส่วนใหญ่มักมีผลประโยชน์ซ่อนเร้น การแอบจ้องตักตวงผลประโยชน์จากการเป็นสมาคมก็มีให้เห็นบ่อย ๆ สมาชิกส่วนน้อยจริง ๆ ที่จะทำเพื่อส่วนรวม
Disruption ที่กำลังจะเกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการคิดคนเดียวลำบาก องค์กรใดมีคนรุ่นเก่า รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ย่อมได้เปรียบ
ความร่วมมือของคนรุ่นต่าง ๆ จะเป็นการสร้างแนวคิดและรูปแบบใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นร่วมกัน และการมีกุนซือหรือการมีที่ปรึกษาที่ดีสักคนหรือหลายคนก็มีความจำเป็นในยุค Disruption
การมีที่ปรึกษาที่ดีไม่ใช่เรื่องยาก ท่านอาจมองหาคนที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชา หรืออาจารย์ที่เคยสอน พ่อแม่พี่น้อง ญาติหรือเพื่อน ๆ หรือใครก็ได้โดยมีเงื่อนไขเพียง 2 ข้อเท่านั้น
1. ที่ปรึกษาที่ดีต้องเป็นคนดี คิดแต่สิ่งดี มีหลักการ และมีเหตุผลในข้อแนะนำ
2. มีความเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งจริง ๆ หรือหลายด้านเป็นที่ประจักษ์
ท่านได้ที่ปรึกษาแบบไหน ท่านก็ได้รับคำแนะนำแบบนั้น ที่ปรึกษาที่ชอบการทุจริตก็มักให้คำปรึกษาที่ผิด ๆ เพื่อการทุจริตต่อท่านเป็นธรรมดา
คุณทักษิณมีกุนซือ พล.อ ประยุทธ์ก็มีกุนซือ แม้แต่ “เล่าปี่” ที่ไม่มีอะไรในพงศาวดารสามก๊ก พอได้ “ขงเบ้ง” มาเป็นกุนซือก็สามารถแบ่งแผ่นดินจีนออกเป็น 3 ส่วน และก้าวขึ้นมาต่อกรกับ “ซุนกวน” และ “โจโฉ” ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
ไม่ว่าท่านจะเก่งกาจหรือมีความสามารถเพียงใด การมีกุนซือหรือที่ปรึกษาที่ดีก็ไม่เสียหายอะไร แถมท่านยังได้ความแปลกใหม่ ได้ความเปลี่ยนแปลงเป็นทางเลือกที่จะนำไปสู่ความสำเร็จซึ่งมีมาทุกยุคทุกสมัย
หากท่านเป็นผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก อยู่ในวงการท่องเที่ยวหรือธุรกิจอื่น ๆ การมองหากุนซือหรือที่ปรึกษาที่ดีในวันนี้จะทำให้ท่านได้เตรียมตัว วางแผน และปรับรูปแบบกลยุุทธ์ท่ามกลาง Disruption ภายหลัง Covid-19 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
กุนซือ หรือที่ปรึกษาที่ดีจึงกลายเป็นความจำเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
อ่านบทความอื่นที่เขียนโดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร ได้ที่ http://snp.co.th/e-journal/
Logistics
CNC เปิดให้บริการขนส่งด่วนเชื่อมแหลมฉบัง-สิงคโปร์ ทุกสุดสัปดาห์
สายการเดินเรือ CNC แบรนด์ผู้ปฏิบัติการขนส่งสินค้าทางทะเลระยะสั้นในเส้นทางการค้า Intra-Asia ของ APL ในเครือกลุ่มบริษัท CMA CGM เปิดตัวบริการขนส่งด่วนเส้นทางใหม่ ‘LCX’ เชื่อมต่อระหว่างท่าเรือ Laem Chabang และ Singapore
การเปิดตัวบริการ LCX ถือเป็นการเพิ่มบริการสู่ประเทศไทยของ CNC จากเดิมที่มีอยู่ 15 บริการ โดย LCX ถือเป็นบริการขนส่งสินค้าเส้นทางตรงระยะสั้น ที่เชื่อมต่อระหว่างแหลมฉบังและสิงคโปร์บริการแรกในเส้นทางการค้า Intra-Asia
บริการ LCX จะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบังในช่วงสุดสัปดาห์ มุ่งเน้นสนับสนุนผู้ส่งออกชาวไทยในการส่งออกสินค้าที่ผลิตขึ้นในระหว่างวันจันทร์ถึงศุกร์ โดยเรือสินค้าจะเดินทางถึงแหลมฉบังในวันเสาร์ และออกเดินทางกลับไปยังสิงค์โปร์ในวันอาทิตย์ และเข้าเทียบท่าที่สิงคโปร์ในวันพุธ
นอกจากนี้ ผู้ส่งออกที่ต้องการส่งสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดโลก จะได้รับประโยชน์จากเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมทั่วโลกของกลุ่มบริษัท CMA CGM ซึ่งมีศูนย์กลางการถ่ายลำสินค้าที่ท่าเรือสิงคโปร์ โดยบริการ LCX เที่ยวปฐมฤกษ์จะปฏิบัติการด้วยเรือขนส่งสินค้าขนาดระวาง 4,400 ทีอียู และออกเดินทางจากท่าเรือสิงคโปร์ในวันที่ 29 เมษายน 2020
ทั้งนี้ Mr. Benoit de Quillacq กรรมการผู้จัดการ และคุณภูมิสิทธิ์ ชิตามระ ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท CMA CGM ประเทศไทย กล่าวถึงบริการใหม่นี้ว่า “CNC เปิดบริการ LCX ใหม่ด้วยเป้าหมายที่จะให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์ เพื่อเปลี่ยนถ่ายสินค้าไปยังภูมิภาคหลักที่สำคัญ เช่น ยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง รวมถึงทะเลแดง และอินเดีย โดยเชื่อมต่อกับเครือข่ายของสายการเดินเรือ CMA CGM และ APL และไปยังโอเชียเนีย โดยเชื่อมต่อกับบริการของสายการเดินเรือ ANL ด้วยเรือที่มีพื้นที่ระวางสินค้าถึง 4,400 ทีอียู บริการ LCX ใหม่นี้จะออกจากท่าเรือแหลมฉบังในทุกวันอาทิตย์ โดยเราได้ขยายเวลาคืนตู้สินค้าให้แก่ลูกค้าจนถึงวันเสาร์ ซึ่งจะเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างแน่นอน สำหรับบริการ LCX ใหม่นี้ CNC จะให้บริการขนส่งสินค้าเส้นทางตรงระหว่างประเทศไทยและสิงคโปร์สำหรับตู้สินค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ตู้สินค้าทั่วไป ตู้สินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ ตู้สินค้าบรรจุสินค้าอันตราย ตลอดจนตู้สินค้าที่ใช้สำหรับบรรจุสินค้าที่มีขนาดใหญ่พิเศษ”
CNC เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งสินค้าระยะสั้นในเส้นทางการค้า Intra-Asia แต่เพียงผู้เดียวในเครือสายการเดินเรือ APL มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ และมีเครือข่ายตัวแทนในภูมิภาคเอเชียอย่างกว้างขวาง โดย APL เป็นธุรกิจในกลุ่มบริษัท CMA CGM
ในเส้นทางการค้า Intra-Asia สายการเดินเรือ CNC มีบริการขนส่งสินค้ากว่า 60 บริการ และยังมีการขยายเครือข่ายบริการอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาด โดยมุ่งเน้นในการมอบบริการที่มีความน่าเชื่อถือ รวดเร็ว และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา : https://www.logistics-manager.com/th/cnc-lcx-lch-singapore-express-service/
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!