CEO ARTICLE
เปลี่ยน
ผลการเลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566 ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปทางไหน ?
“มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” และ “กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม”
พรรคก้าวไกลใช้สโลแกนเหล่านี้กระชากความรู้สึกคนรุ่นใหม่ให้เปลี่ยนประเทศไทย และก็ได้ผล คะแนนอย่างไม่เป็นทางการขึ้นเป็นอันดับ 1 กว่า 14 ล้านเสียง
พรรคเพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์แน่นอน คะแนนไม่เป็นทางการได้ราว 10 ล้านเสียง
จำนวน ส.ส. อย่างไม่เป็นทางการของก้าวไกลได้รวม 151 ที่นั่ง เพื่อไทยได้รวม 141 ที่นั่ง รวม 2 พรรคฝ่ายค้านเดิมจะได้ถึง 292 ที่นั่ง มากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. ทั้งหมด
พรรครัฐบาลเดิม ภูมิใจไทย 70 พลังประชารัฐ 40 รวมไทยสร้างชาติ 36 ประชาธิปัตย์ 25 ชาติพัฒนา 10 ที่นั่งทำให้โอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลน้อยลง หรืออาจไม่เหลือเลย
ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการในเบื้องต้นสื่อว่า 3 ลุงทั้งลุงตู่ ลุงป้อม และลุงโทนี่สิ้นมนต์ขลังแล้ว สิ้นการเมือง 3 ก๊ก สิ้นการเมืองที่ไม่แสดงจุดยืนให้ชัดเจน สิ้นบ้านใหญ่สู่จุดเปลี่ยน และเป็นจุดเริ่มต้นที่คนรุ่นใหม่จะนำคนรุ่นเก่าเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิม
ตอนนี้ก็เพียงรอดูคะแนนอย่างเป็นการทางการ และการดำเนินการผู้ทำผิดระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่อาจมีใบแดง ใบเหลือง การเลือกตั้งใหม่ การตัดสิทธิ์ การยุบพรรค และ ส.ว.
คะแนนอาจพลิกได้ แต่ไม่ว่าจะพลิกอย่างไร เบื้องต้นก็สื่อว่า สังคมไทยอึดอัดจริง ต้องการเปลี่ยนจริง ส่วนจะเปลี่ยนไปทางไหน สุดโต่งแค่ไหนคงเป็นเรื่องที่ทุกคนในสังคมต้องติดตาม
เปลี่ยน (Change) เป็นคำสั้น ๆ ที่อดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามาเคยใช้หาเสียง
ปี 2551 คนสหรัฐก็อยากเปลี่ยน โอบามาจากพรรคเดโมแครต ผิวสีวัย 48 ปี จึงได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐ และขึ้นเป็นผู้นำโลกรุ่นใหม่วัยหนุ่มถึง 2 สมัย 8 ปี
ภายหลังเลือกตั้ง สหรัฐมีการเปลี่ยนจริงหลายเรื่องตามมอตโต้การหาเสียง
ปี 2559 คนสหรัฐคงไม่ชอบสิ่งที่เปลี่ยนจึงหันไปเลือก “ดอนัลด์ ทรัมป์” จากพรรคตรงข้าม รีพัคบิกันซึ่งเป็นคนแก่ในวัย 70 ปี ทรัมป์เข้ามา 4 ปีก็ทุ่มเทเปลี่ยนสหรัฐให้เป็นที่ 1 ของโลกให้ได้
ปี 2563 คนสหรัฐคงไม่ชอบ เปลี่ยนอีก คราวนี้กลับไปเลือกพรรคเดโมแครต ได้คนยิ่งแก่กว่าทรัมป์ในวัย 78 ปี ชื่อ “โจ ไบเดน” และเป็นประธานาธิบดีจนถึงปัจจุบัน
สหรัฐมีการเปลี่ยนมาก่อนไทย มีการสลับขั้วไม่ต่างกัน ได้คนหนุ่มและสลับได้คนแก่ แต่ดูจากสภาพสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบันก็น่าจะเหมือนเดิม ไม่ดีขึ้น แต่กลับตอกย้ำคำว่า “ทหารแก่ไม่มีวันตาย” (Old Soldiers never die)
การเมืองภายในสหรัฐเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา แต่นโยบายที่มีต่อไทยกลับไม่เปลี่ยนตาม
ปี 2540 สหรัฐเคยขอตั้งฐานทัพลอยน้ำในประเทศไทย แต่รัฐบาลชวน หลีกภัยไม่ยอม
ปี 2546 รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ยอมให้สหรัฐนำเครื่องบินทหารมาแวะซ่อมบำรุง และเติมน้ำมันที่สนามบินอู่ตะเภาเพื่อไปทิ้งระเบิดใส่อัฟกานิสสถาน และบางประเทศในตะวันออกกลาง
พอถึงรัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรก็อนุญาตให้สหรัฐใช้สนามบินอู่ตะเภาอีกครั้งเพื่อติดตั้งฐานดาวเทียม แต่คนไทยไม่ยอม น.ส. ยิ่งลักษณ์จึงถอยในครั้งนั้น มาถึงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สหรัฐก็ตัดญาติกับรัฐบาลไทย (แนวหน้าออนไลน์ 28 พ.ค. 2564)
ข่าวจากหลายสื่อชี้ว่า สหรัฐไม่เคยเปลี่ยนความคิดที่จะตั้งฐานปฏิบัติการทางทหารในไทยเหตุผลที่สื่อส่วนใหญ่ชี้คล้ายกันคือ สหรัฐต้องการใช้ไทยเป็นฐานทางทหารเพื่อต่อต้านจีน
ไม่มีใครตอบได้ชัด ๆ ว่าการให้สหรัฐตั้งฐานทัพในไทยเป็นผลดีต่อคนไทยมากน้อยเพียงใด และการแทรกแซงกิจการภายในของไทยไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ การล้มล้างวัฒนธรรม หรือความวุ่นวายที่เกิดก่อนหน้านี้เป็นฝีมือสหรัฐจริงหรือไม่ ???
แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเชิงประจักษ์คือ สหรัฐอยากได้ไทย อยากได้มาก ๆ
ขึ้นชื่อว่ามหาอำนาจ ทุกประเทศน่ากลัวไม่ต่างกัน ไม่ว่าไทยจะเข้ากับฝ่ายใดทั้งสหรัฐ จีน หรือรัฐเซียก็ล้วนมีผลเสียที่อาจทำให้ไทยเป็นเมืองขึ้น และกลายเป็นแดนกระสุนตกได้ง่าย
การเปลี่ยนของไทยครั้งนี้จึงยิ่งใหญ่ จะเปลี่ยนไปทางมหาอำนาจใด จะเปลี่ยนสังคมไทยสู่รูปแบบใดจึงเป็นเรื่องที่หลายประเทศที่กำลังจะเข้าลงทุนในไทยเฝ้ามอง สังคมไทยก็ควรเฝ้ามอง
คนไทยทุกคนจึงควรยอมรับกติกา ยอมรับการตัดสิน ยอมรับผลการเลือกตั้ง และควรร่วมกันส่งเสริมรัฐบาลใหม่ไม่ว่าจะเป็นใครให้เปลี่ยนประเทศไทยไปในทางที่ดีกว่าเดิม.
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
👉 Home and Health … https://www.inno-home.com
👉 Art and Design …… https://www.cose.life
อ่านบทความอื่นที่เขียนโดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร ได้ที่ http://snp.co.th/e-journal/
Date Published : May 16, 2023
Logistics
เมืองชิงต่าว ดาวรุ่ง “ขนตาปลอม” ผลิตขนตาปลอมครองสัดส่วน 70% ของตลาดโลก
ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าความสวยความงามเป็นสิ่งที่พึงปรารถนาของทุกเพศทุกวัย ผู้คนล้วนต่างหยิบจับสิ่งต่าง ๆ เพื่อมาตกแต่งหรือประดับบนร่างกาย เพื่อสร้างความมั่นใจและความสวยงามให้ตนเองดั่งเช่นสุภาษิตไทยที่ว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง”
“ขนตาปลอม” เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกในปัจจุบันที่ผู้คนนิยมนำมาตกแต่งดวงตาให้ดูสวยงาม โดยพบว่า ในทุก ๆ ปี ผู้รักความงามทั่วโลกใช้ขนตาปลอมเกือบ 200 ล้านคู่ แต่มีเพียงผู้ใช้บางท่านเท่านั้นที่ทราบว่า 70% ของขนตาปลอมเหล่านี้ เป็นขนตาปลอมที่ได้รับการผลิตในตำบลต้าเจ๋อซาน เมืองรองผิงตู้ เมืองชิงต่าว มณฑลซานตง ของประเทศจีน ซึ่งเป็น “เมืองขนตาอันดับ 1 ของจีน” ซึ่งการพัฒนาอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมขนตาปลอมของเมืองรองผิงตู้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเครื่องจักรที่ช่วยให้สามารถผลิตขนตาปลอมที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเครื่องจักร 1 เครื่อง สามารถผลิตขนตาปลอมได้มากกว่า 10,000 คู่/วัน
ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดเครื่องสำอางทั่วโลกต่างมียอดขายที่ลดลง แต่ในทางตรงข้ามการเติบโตของยอดขายขนตาปลอมกลับได้รับการกระตุ้นจากกลุ่มลูกค้าที่ใช้เวลาอยู่ที่บ้านและสั่งซื้อของออนไลน์มากขึ้น “ดวงตา” เป็นหนึ่งในส่วนเพียงเล็กน้อยบนใบหน้าที่สามารถมองเห็นได้เมื่อสวมใส่หน้ากากอนามัย จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ช่วยกระตุ้นการขายขนตาปลอม โดยยอดขายออนไลน์ของอุตสาหกรรมขนตาปลอมเติบโตในอัตราเฉลี่ยต่อปี 70% และมีการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นถึง 120% จากการสำรวจตลาด ทั้งนี้ แม้ว่าอุตสาหกรรมขนตาปลอมในเมืองรองผิงตู้จะเติบโตได้ดีในตลาด แต่ก็ต้องพบกับความท้าทาย เมื่อพบว่าอุตสาหกรรมอยู่ในจุดคอขวด ดังนั้นรัฐบาลท้องถิ่นจึงไม่รอช้าเร่งมือแก้ไขปัญหาเหล่านี้ โดยรัฐบาลท้องถิ่นได้ประกาศนโยบายและมาตรการใหม่ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรม มาตรการเหล่านี้ มีตั้งแต่การเก็บภาษีไปจนถึงอีคอมเมิร์ซ การจัดส่ง การวิจัยและพัฒนา และการจัดหาเงินทุน เป็นต้น
อนึ่ง เมืองรองผิงตู้ มีบริษัทมากกว่า 2,000 แห่งที่เกี่ยวข้องกับการผลิตขนตาปลอม ซึ่งสามารถผลิตขนตาปลอมได้ปีละ 120 ล้านคู่ สร้างมูลค่ากว่า 7 พันล้านหยวน (ประมาณ 1,010 พันล้านดอลลาร์) ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ขนตาปลอมที่ผลิตที่นี่คิดเป็น 70% ของตลาดโลก
ที่มา: https://thaibizchina.com
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!