CEO ARTICLE
รถทัวร์ใช้แก๊ส
ต้นเหตุของแก๊สที่ใช้ในรถทัวร์ระเบิดคืออะไร และมีทางป้องกันอย่างไร ?
ในอดีต ประเทศไทยอยู่กันแบบ “ครอบครัวขยาย” มีทั้งพ่อ แม่ ลูกรวมไปถึง ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา ลูกสะใภ้ หลานสะใภ้ ลูกเขย หลานเขยอยู่รวมกันซับซ้อนหลายลำดับชั้น
แม้ปัจจุบัน การอยู่กันจะมีสภาพเป็น “ครอบครัวเดี่ยว” ที่มีเพียงพ่อ แม่ ลูกมากขึ้น
แต่สภาพครอบครัวขยายก็ไม่หายไปไหน สิ่งที่เห็นคือ ทุกเทศกาล คนไทยที่เป็นครอบครัวเดี่ยวต้องพาตัวกลับไปหาปู่ ย่า ตา ยาย และรวมกลุ่มเป็นสภาพครอบครัวขยาย
ประเทศไทยมีเทศกาลมาก วันหยุดยาวก็มาก การกลับไปรวมเป็นครอบครัวขยายจึงมาก
การไม่ทิ้งกัน และการนับญาติจนติดปากทำให้คนไทยส่วนใหญ่ที่ติดต่อกันมักเรียกทุกคนเป็นญาติ เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นลุง ป้า น้า อา บางคนก็ยังเรียกเป็นพ่อ เป็นแม่
คนไทยไม่ใช่ญาติก็ห่วงใยกันเหมือนญาติ เหมือนคนในครอบครัว เมื่อเกิดเหตุร้าย เช่น รถทัวร์ทัศนศึกษาของคณะเด็กนักเรียนอุทัยธานี แก๊สในรถระเบิดบนถนนวิภาวดีรังสิตเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2567 จึงสร้างความโศกเศร้า กระชากอารมณ์คนไทยที่ตามมาด้วยข้อสงสัยมากมาย
อะไรคือต้นเหตุที่แท้จริง ใครต้องรับผิดชอบ และจะป้องกันมิให้เกิดในอนาคตอย่างไร ?
แก๊สที่ใช้อย่างถูกกฎหมายในปัจจุบันมี 2 ประเภทคือ LPG และ NGV
LPG (Liquefied Petroleum Gas) เป็นผลผลิตจากการกลั่นน้ำมันดิบ น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน มีน้ำหนักมากกว่าอากาศ ลอยต่ำ ใช้ในการหุงต้มจึงต้องใส่กลิ่นฉุนลงไปเพื่อเตือนภัย
NGV (Natural Gas Vehicle) เป็นก๊าซธรรมชาติ เป็นชื่อที่ใช้เฉพาะในประเทศไทยเพื่อให้รู้ว่าใช้กับยานยนต์เท่านั้น ในต่างประเทศก็มี แต่จะเรียก CNG (Compressed Natural Gas)
NGV เป็นก๊าซที่ได้จากการทับถมของฟอสซิลเหมือนน้ำมันและถ่านหินจนเกิดเป็นก๊าซ ใช้การขุดเจาะเพื่อจัดเก็บและใช้งาน NGV มีน้ำหนักเบากว่าอากาศจึงลอยสูง ฟุ้งกระจายได้ง่าย แต่ไม่มีการฟุ้งสะสมในบริเวณที่รั่วไหล (อ้างอิง https://www.autodeft.com)
NGV มีน้ำหนักเบากว่า LPG จึงลอยในอากาศได้สูงกว่า ไม่มีการสะสมจึงไม่ใส่กลิ่น
LPG และ NGV มีอันตรายทั้งคู่ แต่เมื่อผ่านการรับรองจากหน่วยราชการ และมาตรการการป้องกันอุบัติเหตุต่าง ๆ แล้ว LPG จึงอยู่ในครัวเรือนทั้งครอบครัวขยายและครอบครัวเดี่ยว ส่วน NGV ใช้ในรถโดยสารราว 13,000 คัน (กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 02 ต.ค. 67)
แก๊ส NGV ไม่ใส่กลิ่น เวลารั่วจึงไม่มีใครรู้ หากรัฐบาลกำหนดให้ใส่กลิ่นฉุนลงไป เวลารั่วไหลจะทำให้คนรอบข้างตื่นตัวเร่งหนีภัยจากระเบิดบนท้องถนนเร็วขึ้นก็จะเป็นการป้องกันที่ 1
รถโดยสารที่ใช้แก๊ส NGV มีราว 13,000 คัน หากนับรวมรถขนส่งสินค้า และรถอื่น ๆ ก็น่าจะหลายหมื่นคันวิ่งโลดแล่นไปมาคล้ายระเบิดบนท้องถนนที่มีญาติพี่น้องของทุกคนร่วมเดินทาง
ขณะที่หน่วยงานที่ต้องดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน มีดังนี้
หน่วยที่ 1 หน่วยตรวจสภาพยานยนต์ประจำปีตามระยะเวลาที่กำหนด
หน่วยที่ 2 ด่านตรวจยานยนต์ตามถนนหลวงเพื่อสุ่มตรวจ
หน่วยที่ 3 อู่ที่มีใบอนุญาตให้ติดตั้ง และต่อเติมระบบแก๊ซในยานยนต์
หน่วยที่ 4 อู่เถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาต แต่ไม่ถูกจับกุม
หน่วยที่ 5 ตรอ. (สถานตรวจสภาพรถเอกชน) ที่ได้รับอนุญาตทั่วประเทศ
หน่วยที่ 6 หน่วยงานอื่น ๆ รัฐจัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลยานยนต์ให้เป็นไปตามกฎหมาย
หน่วยที่ 7 ผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่ได้กำไร ต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ต้องห่วงใยผู้อื่น และต้องถูกปลุกจิตสำนึกให้มองผู้อื่นดุจญาติพี่น้องจากครอบครัวขยาย ผู้ประกอบการจึงต้องถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากทุกหน่วยงานเพื่อเป็นมาตรการป้องกันที่ 2
แต่ความจริงคือ บางหน่วยงานทำหน้าที่ตรวจสอบได้ดี บางหน่วยละเลยหน้าที่ และมีการทุจริตทั้ง ๆ ที่ทุกหน่วยงานมีผู้บังคับบัญชา มีกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ และมีกระทรวงที่ต้องควบคุม
เมื่อมีกระทรวง มันก็หนีไม่พ้นรัฐมนตรี และนักการเมืองที่ประชาชนเลือกมาให้ตรวจสอบ
หากรัฐมนตรีในกระทรวงที่เกี่ยวข้องมีจริยธรรม มีความซื่อสัตย์ เข้มงวด และกวดขันให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบตามหน้าที่อย่างถูกต้องก็จะเป็นการป้องกันที่ 3
หากรัฐมนตรีทำหน้าที่ดีแล้ว โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นอุบัติเหตุ เป็นชะตากรรม และเป็นบททดสอบของพระเจ้า แต่หากรัฐมนตรีไม่เข้มงวด ไม่กวดขัน ปล่อยให้มีการทุจริต หน่วยงานต่าง ๆ ละเลย การป้องกันทั้ง 3 ข้อย่อมเป็นไปไม่ได้ และเหตุร้ายจะเกิดขึ้นต่อไปไม่รู้จบ
การเลือกนักการเมืองจึงเป็นการเลือกรัฐมนตรี เลือกผู้ตรวจสอบรัฐมนตรี และเลือกความปลอดภัยให้ลูกหลาน หากเลือกจากจินตนาการ จากเงินที่คิดว่าจะได้ หรือผลประโยชน์เบื้องหน้าที่นักการเมืองทุจริตหยิบยื่นให้ ลูกหลานก็จะมีชะตากรรมไปตามที่นักการเมืองหยิบยื่นให้
แต่หากเลือกจากความรู้ ความสามารถ จริยธรรม และความซื่อสัตย์ของนักการเมืองที่เป็นประจักษ์ การป้องกันทั้ง 3 ข้อจะเกิดขึ้นได้ และลูกหลานจะปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งพาวาสนาใด ๆ
แก๊สที่ใช้ในรถทัวร์ระเบิดจึงป้องกันได้ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดที่จะควบคุม สั่งการ และเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดที่จะลดเหตุร้ายให้ลูกหลานในอนาคตได้
คนไทยผูกพันกันแบบครอบครัวขยาย ความห่วงใยจึงกว้างเหมือนคนในครอบครัว และความปลอดภัยของลูกหลานในทุกครอบครัวก็หนีไม่พ้นนักการเมืองที่ทุกคนเลือกมา.
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
for Home and Health,
please visit https://www.inno-home.com
อ่านบทความอื่นที่เขียนโดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร ได้ที่ http://snp.co.th/e-journal/
Date Published : October 8, 2024
Logistics
การนัดหยุดงานประท้วงตลอดแนวชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ยุติชั่วคราว
สหภาพแรงงานท่าเรือสหรัฐฯ รายใหญ่รายหนึ่งและสมาคมการเดินเรือแห่งสหรัฐฯ (United States Maritime Alliance หรือ USMX) บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในเรื่องค่าจ้าง และได้ขยายสัญญาฉบับปัจจุบันออกไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม เพื่อเปิดโอกาสในการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ ข้อตกลงดังกล่าวสามารถยุติการหยุดงานประท้วงที่ทำให้ท่าเรือตามชายฝั่งตะวันออกและอ่าวสหรัฐฯ เป็นอัมพาตตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และผลกระทบร้ายแรงต่อการจัดส่งผลไม้ รถยนต์ และสินค้าต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ลงได้
“สมาคมแรงงานท่าเรือสากล (International Longshoremen’s Association หรือ ILA) และสมาคมการเดินเรือแห่งสหรัฐฯ (USMX) ระบุในแถลงการณ์ร่วมว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในเรื่องค่าจ้างและตกลงที่จะขยายสัญญาหลักออกไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2025 เพื่อกลับเข้าสู่การเจรจาในประเด็นอื่น ๆ ที่ยังคงค้างอยู่”
CNBC รายงานว่าตลอดสัปดาห์ที่เกิดการหยุดงานประท้วง การประท้วงได้เริ่มส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ ตู้สินค้าจำนวนหลายพันตู้ถูกนำไปส่งผิดท่าเรือ และสินค้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ก็เหมือนถูกกักไว้กลางทะเลเนื่องจากท่าเรือไม่สามารถดำเนินการได้ ค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งเริ่มปรับตัวสูงขึ้นแล้ว ครั้งนี้เป็นการหยุดงานประท้วงครั้งแรกของ ILA ตั้งแต่ปี 1977 และส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของท่าเรือ 14 แห่ง โดยในสัปดาห์นี้มีสมาชิกสหภาพประมาณ 50,000 คน จากทั้งหมด 85,000 คนเข้าร่วมการประท้วง Harold Daggett ซึ่งเป็นประธานของ ILA ได้แถลงเมื่อวันอังคารว่า สหภาพได้เรียกร้องขอเพิ่มค่าจ้าง $5 ต่อชั่วโมงในแต่ละปีของสัญญาที่มีอายุ 6 ปี CNBC รายงานจากแหล่งข่าวว่า ภายใต้ข้อตกลงเบื้องต้นนี้ ค่าจ้างของ ILA จะเพิ่มขึ้น 61.5% ภายในระยะเวลา 6 ปี ในขณะที่ประเด็นขัดแย้งที่สำคัญเรื่องการใช้ระบบอัตโนมัติในท่าเรือยังอยู่ระหว่างการเจรจา
บทวิเคราะห์: ตรวจสอบข้อมูลดัชนีราคาค่าขนส่งตู้สินค้าทั่วโลก (Global Container Freight Index) จาก Freightos Baltic Index (FBX) แล้วพบว่า ปัจจุบัน (11:00 น. วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคมตามเวลา Eastern Time) ดัชนีราคาอยู่ที่ 3,857.75 เหรียญสหรัฐ และลดลงมาร้อยละ 15 ในขณะที่ดัชนีล่าสุดของเส้นทางจากจีน/เอเชียตะวันออกไปอเมริกาเหนือฝั่งตะวันตก และจีน/เอเชียตะวันออกไปอเมริกาเหนือฝั่งตะวันออก อยู่ที่ 5,806 และ 6,920 เหรียญสหรัฐตามลำดับและกำลังปรับตัวลดลงมาร้อยละ 15 และ 20 ตามลำดับ และหลังจากที่เหตุการณ์นี้ยุติลง ก็อาจส่งผลให้มีแนวโน้มลดลงมาได้อีก อย่างน้อยก็ในระยะหนึ่ง
ก่อนที่จะที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงกัน ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา Ron DeSantis (ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อรับเลือกให้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และได้หลีกทางให้ Donald Trump ในที่สุด) ได้มีปฏิกิริยารุนแรงต่อผลกระทบที่เกิดจากการหยุดงานประท้วงดังกล่าว ที่เหมือนเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ภายหลังจากที่รัฐฟลอริดาเกิดภัยพิบัติรุนแรงอันเป็นผลมาจากเฮอร์ริเคนเฮลีน ได้ประกาศกร้าวว่า จะส่งกำลังจากกองกำลังพิทักษ์ชาติฟลอริดา (Florida National Guard) และกองกำลังพิทักษ์รัฐฟลอริดา (Florida State Guard) ไปยังท่าเรือที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงของสมาคมแรงงานท่าเรือสากล (ILA) โดยได้ทวีตผ่าน X Platform และออกแถลงการณ์ไว้ว่า “เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และพยายามฟื้นฟูการดำเนินงานในท่าเรือที่ถูกปิดตัวลง การขัดขวางการกระจายอาหาร อุปกรณ์ และเสบียงต่างๆ ขณะที่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ กำลังฟื้นฟูจากพายุเฮอริเคนเฮลีนเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ ชาวฟลอริดาต้องการทรัพยากรที่มั่นคงและเพียงพอ เพื่อดูแลครอบครัวของพวกเขาและสร้างบ้านเรือนและธุรกิจใหม่ หน่วยลาดตระเวนทางหลวงฟลอริดาจะจัดการการจราจรจากท่าเรือทุกแห่งในฟลอริดาตามความจำเป็น เพื่อเร่งการกระจายสินค้า พร้อมทั้งเสนอบริการรถคุ้มกันให้กับยานพาหนะเชิงพาณิชย์ตามคำร้องขอด้วย ต่างจากรัฐบาลกลาง ฟลอริดาดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อให้เศรษฐกิจของเรายังคงดำเนินต่อไป และให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนเฮลีนเข้าถึงสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้ในการฟื้นฟูบ้านเรือน” เดอแซนทิสกล่าวเสริม ผู้ว่าการรัฐยังได้สั่งให้กรมคมนาคมฟลอริดายกเว้นการเก็บค่าผ่านทาง ค่าธรรมเนียมต่างๆ รวมถึงข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักสำหรับยานพาหนะเชิงพาณิชย์ เพื่อเร่งการขนส่งสินค้าและลดต้นทุนการดำเนินงาน ทั้งนี้เพราะท่าเรือ 4 แห่งของฟลอริดา ได้แก่ Port Everglades, Port Miami, Port Tampa Bay และ Jaxport (Jacksonville) ได้รับผลกระทบจากการประท้วงของ ILA ซึ่งดำเนินมาถึงวันที่สามแล้ว
และด้วยภาวะผู้นำที่เต็มเปี่ยม ผู้ว่า DeSantis จึงได้ออกคำสั่งผู้บริหารฉบับที่ 24-212 และ 24-213 เพื่อจัดการกับผลกระทบจากการประท้วงท่าเรือและพายุเฮอริเคนเฮเลนที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง คำสั่ง 24-213 สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เช่น กองกำลังพิทักษ์รัฐและกรมคมนาคม ลดผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะในท่าเรือที่สำคัญของฟลอริดา เช่น JAXPORT และ PortMiami ส่วนคำสั่ง 24-212 เน้นการรักษาความปลอดภัยในการเลือกตั้งท่ามกลางสถานการณ์ฟื้นฟูจากพายุ นอกจากนี้ คำสั่ง DBPR 2024-09 ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ต้องการที่พักโดยผ่อนปรนข้อจำกัดการเช่าที่พัก
หลังจากปฏิกิริยาของผู้ว่าฯ DeSantis ดังกล่าวไม่นาน ซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณเตือนให้บรรดาผู้ประท้วงทราบถึงความเอาจริงเอาจังของภาครัฐ อาจเป็นสัญญาณชี้ว่าในยามวิกฤติอันเกิดจาก เฮอร์ริเคนเฮลีนที่ประชาชนกำลังทุกข์ยาก ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะดึงดันเรียกร้องเช่นนี้ หรืออาจมีสัญญาณจากฟากฝ่ายการเมืองบางกลุ่มที่ประสานเพื่อให้รอก่อนและให้เป็นปัญหาในรัฐบาลใหม่ดีกว่า จะด้วยเหตุใดก็ตาม แต่การเจรจาก็ยุติลงได้โดยผู้ประท้วงสรุปว่าจะยอมใช้สัญญาฉบับเดิมไปก่อนจนกว่าจะถึงวันที่ 15 มกราคม 2025 ซึ่งเป็นเวลที่น่าจะทราบผลเด็ดขาดแล้วว่ารัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะมาจากพรรคใด และแน่นอนว่า รัฐบาลใหม่อาจจะต้องเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ดังที่เป็นมาอีกครั้ง
ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ: เหตุที่จำเป็นต้องใส่ใจกับเหตุการณ์ที่แรงงานในท่าเรือนัดหยุดงานครั้งนี้ด้วยก็เพราะเหตุการณ์เช่นนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ส่งออกจากทุกแห่งทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่ามีผู้ประกอบการณ์ไทยที่อยู่ในกลุ่มผู้ที่จะได้รับผลกระทบด้วยแน่ แต่ผู้ที่ส่งของสด ของแช่แข็ง แช่เย็น ก็จะได้รับผลกระทบมากกว่าตามลำดับ ข่าวนี้จากหลายๆ แหล่งดูเหมือนจะชี้ว่าแรงงานเหล่านี้นัดหยุดงานทั้งที่ค่าแรงก็ได้รับการปรับขึ้นอยู่แล้ว แต่ปรับขึ้นไม่มากเท่าที่ต้องการและหลายฝ่ายอาจมองว่าเป็นผู้ร้าย แต่เมื่อทราบว่าคนกลุ่มนี้มีสมาชิกกว่า 45,000 คนและไม่เคยมีปากมีเสียงมาเลยนับจากปี 1977 ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 47 ปีก็เชื่อว่าน่าจะมีประเด็นบางอย่างที่ทำให้พวกเขามีความชอบธรรมในการกระทำครั้งนี้ได้บ้าง ลึกลงไปก็ยังพบว่าไม่ใช่เพียงเรื่องค่าแรงแต่ยังมีเรื่องความมั่นคงในการจ้างงานด้วย หนึ่งในข้อเรียกร้องคือการไม่ยอมรับการใช้ระบบอัตโนมัติในการควบคุมเครื่องจักร ซึ่งกำลังจะแย่งตำแหน่งงานของมนุษย์ไปด้วย
แต่หากพวกเขายังไม่ยุติการนัดหยุดงาน ก็จะมีท่าเรือถึง 36 แห่งเรียงรายตามชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯนับจากรัฐเมน ยาวไปจนถึงรัฐเทกซัสเลยทีเดียว ท่าเรือสำคัญๆ นอกเขตรัฐฟลอริดา ได้แก่ Boston, New York/New Jersey, Baltimore รวมถึงท่าเรือหลักสำหรับสินค้ายานยนต์ สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมอย่าง New Orleans และ Houston และมีการวิเคราะห์ว่าหากการประท้วงยังคงดำเนินต่อไปยาวนานกว่า 2-3 สัปดาห์ก็จะส่งผลให้เกิดการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคไปทั่วประเทศและราคาสินค้าก็จะทะยานสูงอย่างรวดเร็ว และตัวเร่งอีกประการหนึ่งก็คือ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่สินค้าสำหรับเทศกาลวันหยุดกำลังถูกลำเลียงมาไม่ขาดสาย
หากรัฐบาลพิจารณาว่าการนัดหยุดงานประท้วงจะส่งผลเสียหายต่อสุขภาวะและความปลอดภัยของสหรัฐฯ ก็สามารถนำกฎหมาย Taft-Hartley Act ที่ออกมาตั้งแต่ปี 1947 มาใช้เพื่อเข้าแทรกแซงได้โดยสามารถขอคำสั่งศาลให้แรงงานงานกลับไปทำงานในขณะที่การเจรจายังไม่บรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งรัฐบาลของไบเดนนั้นไม่ต้องการจะนำกฎหมายฉบับดังกล่าวมาใช้ เพราะแสดงจุดยืนชัดเจนว่าเป็นเสรีนิยมอยู่ข้างฝ่ายแรงงานที่เน้นปล่อยให้นายจ้างและลูกจ้างค่อยๆ เจรจากันจนกว่าจะบรรลุข้อตกลงที่พึงใจกันทั้งสองฝ่ายเองโดยภาครัฐจะไม่เข้าไปแทรกแซง หากผลการเลือกตั้งออกมาว่าเป็นรัฐบาลจากพรรคตรงข้าม ก็อาจได้เห็นการนำกฎหมายนี้มาใช้ก็เป็นได้
ที่มา: https://www.ditp.go.th/post/184705
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!