SNP NEWS

ฉบับที่ 431

Follow Us :       

CEO ARTICLE

“เครื่องมือจับปลา”

“อีก 1-2 ปี พวกเราก็จะเกษียณกันแล้ว ทำไมผมยังต้องทำงานอยู่เลย”

“ผมว่าทำงานนะดีแล้ว ต่อให้มีเงินมากเท่าไรก็ตาม หากลองนั่งเฉย ๆ ไม่ทำงานดูซิ มันน่าเบื่อมากกว่ากันเยอะเลย”

“มันก็ใช่ แต่ผมทำงานมาเกือบ 40 ปี เงินเก็บก็มีมาก แต่มันก็ไม่มั่นใจอนาคต สุดท้ายผมก็ยังคงต้องทำงานเก็บเงินเรื่อยมา”

“ทำงานแล้วมีเงินเก็บ มันยังดีกว่าทำงานแล้วไม่มีเงินเก็บนะ”

ทำงานเพื่อเก็บเงิน

เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับคนมากมายไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต

มันเป็นเรื่องธรรมดาจริง ๆ หากคนผู้หนึ่งในขณะที่อยู่วัยหนุ่มสาวจะทำงานแล้วมุ่งมั่นเก็บเงินจากการทำงานไว้ใช้ในอนาคต

แน่นอนว่า ตลอดวันเวลาที่ผ่านมา เงินในบัญชีของคนผู้นี้ย่อมค่อย ๆ เพิ่มพูนขึ้นซึ่งไม่ต่างอะไรกับชาวประมงที่มุ่งมั่นเอาแต่จับปลาให้ได้มาก ๆ ชาวประมงก็ย่อมมีโอกาสที่จะได้ปลามาก

ใครมุ่งมั่นในเรื่องอะไรก็ย่อมมีโอกาสได้สิ่งนั้นเป็นธรรมดา

หากชาวประมงผู้นี้เอาแต่มุ่งมั่นจับปลาโดยไม่มีการพัฒนาเครื่องมือจับปลา ไม่มีการสร้างเครื่องมือใหม่ ๆ ขึ้นมา ไม่มีการหาแหล่งปลาใหม่ ๆ ชาวประมงผู้นี้แม้จะมีปลามากขึ้นก็จริง แต่พอวันเวลาผ่านไปมาก ๆ ปลาที่เขามีอยู่ก็ย่อมลดน้อยลงไปเอง

มันก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนที่มุ่งทำงานเพื่อเก็บเงินสะสมเข้าบัญชีนั่นละ

หากคนทำงานเพื่อมุ่งเก็บเงินโดยไม่มีการพัฒนาตนเองให้มีความรู้ ไม่มีความชำนาญด้านต่าง ๆ ที่ควรจะต้องมีตามสภาพสังคม แล้วคิดหรือว่าวันหนึ่งในอนาคต เงินที่เขาเก็บไว้จะไม่ลดน้อยถอยลง

วันเวลาของคนทำงานที่ผ่านไปเขาควรต้องเรียนรู้อะไรบ้าง ???

การบริหารการจัดการที่สามารถเอามาใช้กับชีวิตจริง การตลาดเพื่อส่งภาพลักษณ์ที่ดีของตนเอง การเรียนรู้เทคโนโลยี การลงทุนรูปแบบ เทคโนโลยี และอื่น ๆ อีกมาก

ใครเรียนรู้ ใครพัฒนาได้เทียบเท่ากับโลกปัจจุบัน คนนั้นก็เพียงเดินได้ทันโลก หรือเสมอตัวเท่านั้น

ใครไม่ได้เรียนรู้ ไม่ได้พัฒนา เอาแต่จมปลักหาเงินเก็บ แม้คนนั้นจะมีเงินเก็บแต่ย่อมถอยลง ขาดทุนต่อโลกปัจจุบันเป็นธรรมดา

เงินเก็บในบัญชีเป็นสิ่งสำคัญ

แต่การพัฒนาตนเองให้มีความรู้ตามสภาพสังคมและเศรษฐกิจกลับเป็นสิ่งสำคัญกว่า การพัฒนาตนเองนอกจากจะทำให้ตนไม่อยู่ในสภาพขาดทุนจากยุคสมัยแล้ว มันยังเป็นเครื่องมือให้คนผู้หนึ่งหยิบใช้และต่อยอดได้อย่างไม่สิ้นสุดอีกด้วย

การพัฒนาตนเองก็คือการสร้างเครื่องมือจับปลาอย่างถาวร

แล้ววันหนึ่ง เมื่อคนผู้หนึ่งอยู่ในวัยใกล้เกษียณ เขาจะมีความมั่นใจอนาคตมากขึ้น ความรู้สึกของเขาก็จะเปลี่ยนไป เขาจะมองโลกอย่างเข้าใจ

วันนั้น คำกล่าวเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

“ทำไม ผมทำงานมาเกือบ 40 ปี เงินเก็บก็มีมาก แต่มันก็ไม่มั่นใจอนาคต สุดท้ายผมก็ยังคงต้องทำงานเก็บเงินเรื่อยมา”

จงพัฒนาเครื่องมือจับปลาไปพร้อม ๆ กับการเก็บเงิน

สิทธิชัย ชวรางกูร

The Logistics

 Low Sulphur Fuel Surcharge (LSF)

เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกหลายท่าน คงจะได้เจอคำศัพท์ใหม่ในวงการโลจิสติกส์กันอีกแล้วนะคะ

แต่อาจจะเป็นข่าวที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะคำศัพท์ใหม่ที่ว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพิ่มเติม นั่นก็แปลว่า ผู้ประกอบการจะมีภาระที่เพิ่มขึ้น หรือต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นตามไปด้วย

ค่าใช้จ่ายที่ว่านี้ ก็คือ Low Sulphur Fuel Surcharge (LSF) หมายถึง ค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิงกำมะถันต่ำ สืบเนื่องจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ –  International Maritime Organization (IMO) มีความเห็นชอบที่จะลดปริมาณสารกำมะถันในเชื้อเพลิงน้ำมันที่ถูกเผาผลาญโดยเรือบรรทุกสินค้า เพราะในเชื้อเพลิงน้ำมันมีปริมาณสารกำมะถันสูง อันเป็นตัวการก่อให้เกิดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพและเป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้ายต่างๆ เช่น มะเร็ง

ดังนั้น IMO จึงได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อลดปริมาณสารกำมะถันในเชื้อเพลิงน้ำมัน หนึ่งมาตรการที่สำคัญ คือ ทางรัฐบาลในสหภาพยุโรปได้คิดค่าใช้จ่ายกับสายเรือและสายการบิน แต่สุดท้ายทุกคนก็ได้มีส่วนร่วมที่จะรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน เพราะสายเรือก็เรียกเก็บค่า LSF กับผู้ประกอบการอีกทอดหนึ่งด้วย

แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายหรือต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ ก็ถือซะว่าผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือ อากาศที่สะอาดและสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็นมรดกตกทอดให้ลูกหลานก็แล้วกันนะคะ

​สุวิตรี ศรีมงคลวิศิษฎ์​