CEO ARTICLE
ฉีกผลโพลทุกสำนัก
ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
เนื้อข่าวหลายสำนักชี้ว่า ผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมาพลิกความคาดหมายของโพลต่าง ๆ แล้วก็ตามมาด้วยการจราจลย่อย ๆ ในเมืองที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
โพลชี้แบบหนึ่ง แต่ของจริงกลับเป็นอีกแบบหนึ่ง
ประเทศไทยก็เคยอยู่ในสภาพแบบนี้มาก่อน เมื่อมีการเลือกตั้ง มีการทำโพล สถาบันที่รับทำโพลต่างก็มั่นใจแบบสอบถามและวิธีการเก็บตัวอย่างของตน
แล้วเป็นอย่างไร ???
ผลการเลือกตั้งบางประเภทกลับมีผลออกมาตรงข้ามกับโพล เมื่อผลเป็นเช่นนี้ นักวิชาการก็มองเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากมองว่าประชาชนไม่ให้ข้อมูลที่แท้จริงระหว่างทำการสำรวจความคิดเห็น
มันชี้ให้เห็นว่า วันนี้สังคมซับซ้อนขึ้น
สังคมมีการซ่อนเร้นข้อเท็จจริง โดยไม่มีใครรู้ว่าความซับซ้อนนี้จะส่งผลต่องานวิจัยเรื่องอื่น ๆ ที่จะมีในอนาคตเพียงใด
ตอนอังกฤษทำประชามติเพื่อออกจากสหภาพยุโรป (EU) หรือที่เรียกว่า BREXIT มันก็มีการสำรวจความคิดเห็นล่วงหน้าเหมือนกัน
ตอนนั้น ผลของการทำโพลก็คล้าย ๆ กันคือ คนอังกฤษส่วนใหญ่คงไม่ออกจาก EU
ก่อน BREXIT นักวิเคราะห์ก็ชี้ว่า แม้คนอังกฤษส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบจากการย้ายถิ่นฐาน การแย่งงาน และอื่น ๆ จากการอยู่ร่วมใน EU แต่ก็เชื่อว่า การอยู่ร่วมกับ EU ย่อมดีกว่า
แล้วผลก็ออกมาพลิกล๊อคที่ตามมาด้วยการไม่ยอมรับจากประชาชนบางกลุ่ม
คราวนี้มาถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างฮิลลารี่ คลินตัน กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีผลออกมาช๊อคโลกไม่ต่างกัน
นโยบายที่โดนัลด์ ทรัมป์ เสนอหลายอย่างส่งผลกระทบต่อสังคมโลกในวงกว้างไม่ว่าการต่อต้านสินค้าจีนด้วยการขึ้นภาษีสินค้าจากจีน การกีดกันแรงงานต่างชาติที่ลักลอบเข้าเมืองอย่างไม่ถูกกฏหมาย การสร้างกำแพงกั้นระหว่างประเทศสหรัฐกับเม็กซิโก การลดภาษีนิติบุคคลที่ทำให้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์มีกำไรขึ้นทันทีโดยไม่ต้องทำอะไร และอื่น ๆ อีกมาก
ก่อนการเลือกตั้ง ผลโพลต่างก็ชี้ว่าฮิลลารี่จะชนะ
นักวิเคราะห์ต่างเอาผลจากโพลมาชี้ในทิศทางต่าง ๆ แล้วก็มาลงเอยที่ความเสียหายที่โลกและอเมริกาจะได้รับหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง
โพลเชียร์ฮิลลารี่
ก่อนวันลงคะแนนเสียง ตลาดเงินทั่วโลกผันผวน หุ้นในหลายประเทศร่วงตกลงมา ความกังวลหากทรัมป์ชนะเกิดขึ้นตามการวิเคราะห์
แต่สังคมที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ประชาชนไม่ให้ความจริงขณะทำโพลมากขึ้น
แล้วในที่สุด ทรัมป์ก็ชนะการเลือกตั้ง
ภายหลังทราบผลการเลือกตั้ง การวิเคราะห์ของสำนักข่าวต่าง ๆ ก็เปลี่ยนท่าทีโดยต่างก็ชี้ให้เห็นข้อดีของนโยบายที่ทรัมป์ประกาศออกมา
ตามหลักเศรษฐศาสตร์ทุก ๆ นโยบายย่อมมีข้อดี (befefit) และข้อเสีย (cost) เป็นธรรมดา
ความซับซ้อนทำให้สังคมกลับด้านได้ แล้วก็ทำให้ผลร้ายที่คิดว่าจะเกิดจากนโยบายของทรัมป์กลับกลายมาเป็นผลดีได้เช่นกัน
มันทำให้เห็นว่า วันนี้โลกซับซ้อนมากขึ้น แต่ไม่มีใครรู้ว่าความซับซ้อนในวันนี้จะทำให้โลกต้องประสบกับอะไรบ้าง
เหลียวมองดูประเทศไทย
ประเทศไทยก็มีความซับซ้อนไม่ต่างกัน
ความซับซ้อนภายในประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นผลการเลือกตั้งบางครั้งที่ออกมาไม่ตรงกับโพล การไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง หรืออื่น ๆ
เมื่อปะทะกับความซับซ้อนระดับโลกที่เกิดขึ้น วันนี้อะไรต่อมิอะไรก็อาจกลับด้านได้ง่าย ๆ เหมือนกัน
แล้วความซับซ้อนก็ส่งผลกระทบต่อการค้าเป็นภายในและระหว่างประเทศ สุดท้ายก็ส่งผลต่อแผนการเคลื่อนย้ายสินค้าและโลจิสติกส์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถามว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลไทยมองเห็นผลเสียหากทรัมป์ชนะเลือกตั้งหรือไม่ ???
คำตอบคือ รัฐบาลไทยน่าจะเห็นเพราะนักวิเคราะห์ทั่วโลกรวมทั้งของไทยต่างก็ออกสื่อกันไม่เว้นวัน
แล้วหากถามว่าวันนี้ ทรัมป์กลับมาชนะการเลือกตั้ง รัฐบาลไทยรู้หรือยังว่าผลดีที่กลับด้านมามีอะไรบ้าง
คำตอบก็คือ รัฐบาลไทยก็น่าจะเห็นเช่นกัน
แล้วทุกคนก็เชื่อว่า รัฐบาลไทยก็รู้ด้วยว่า ข้อดีที่จะได้รับจากทรัมป์นั้นวันหนึ่งก็อาจกลับด้านมาเป็นข้อเสียและส่งผลกระทบต่อธุรกิจการค้าก็ได้
ทุกอย่างมันเกิดจากความซับซ้อนของสังคมทั้งสิ้น
แม้ทรัมป์เองอาจคาดเดาความซับซ้อนนี้ได้ แต่ก็เชื่อว่า ทรัมป์อาจไม่สามารถควบคุมได้ตลอดกาล
ความซับซ้อนที่ทุกประเทศมีในวันนี้ มันทำให้เรื่องราวต่าง ๆ มีความไม่แน่นอนมากขึ้น มันอาจกลับด้านได้ง่าย ๆ
ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในวันนี้ มันจึงขึ้นอยู่กับรัฐบาลของแต่ละประเทศที่จะมองประโยชน์ให้ออกและฉวยให้ได้โดยเร็ว
ไม่อย่างนั้น ความซับซ้อนนี่ละจะทำให้ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นอย่างตั้งตัวไม่ทัน
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
The Logistics
ส้มไร้ใบ
ผลไม้ที่ออกผลในช่วงหน้าหนาวที่หลายคนชื่นชอบและรอคอยกันอยู่ชนิดหนึ่ง นั่นคือ ส้ม กินส้มให้อร่อยต้องกินช่วงปลายปี-ต้นปี ซึ่งก็อีกไม่นานแล้วนะคะ วันนี้เราเลยมีข่าวเกี่ยวกับส้มมาฝากค่ะ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ส้มจีน ส้มลูกเล็กๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในไทยนั้น รวมถึงส้มแมนดารินและส้มอื่นๆที่นำเข้าจากต่างประเทศ ถ้าหากมีกิ่งและใบติดมาด้วย จะถือว่าผิดกฎหมาย สาเหตุเป็นเพราะว่า ส่วนใหญ่ส้มจีนและส้มแมนดารินเป็นผลไม้ที่ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีนซึ่งการนำเข้าอย่างถูกต้องจะต้องสั่งซื้อจากสวน, โรงคัดบรรจุที่ผ่านการรับรอง มีใบรับรองสุขอนามัย และจะต้องไม่มีกิ่งก้าน, ใบหรือเศษดินปะปนมาด้วย เพราะสิ่งเหล่านั้นจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการสร้างความเสียหายให้แก่ระบบการเกษตรของไทย ซึ่งอาจจะเป็นการแพร่พันธุ์แมลง,ศัตรูพืช หรือโรคระบาดในพันธุ์พืชและสัตว์ได้
ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆในการกำหนดมาตรการควมคุมและตรวจสอบการนำเข้าส้มจากจีนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการนำเข้าผ่านด่านตรวจพืชท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ได้มีการขยายเวลาตรวจสอบสินค้าเป็น 24 ชั่วโมง ซึ่งจะตรวจสอบสินค้าทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่แจ้งนำเข้า โดยใช้วิธีการเปิดตรวจแบบทีเชป (T Shape) คือ เปิดเป็นช่องถึงหน้าตู้และเจาะลงถึงพื้น เพื่อป้องกันการซุกซ่อนผลส้มที่มีใบและกิ่งติดมาด้วย จากนั้นจะปิดสติ๊กเกอร์บนฝาตู้คอนเทนเนอร์ที่ผ่านการตรวจแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการ/ผู้นำเข้า เป็นห่วงเรื่องของกระบวนการขนส่ง, การตรวจสอบโดยศุลกากร ว่าอาจจะทำให้เสียเวลาหรือไม่ และสภาพส้มหรือผลไม้ที่ถูกตรวจสอบจะเป็นอย่างไร บอบช้ำมากน้อยแค่ไหน ท่านก็สามารถวางแผนและป้องกันปัญหาได้ล่วงหน้า เพียงแค่มีตัวแทนผู้ให้บริการทางด้านโลจิสติกส์ที่ดีที่สามารถให้คำปรึกษาและจัดการรับขนส่งสินค้าได้ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ขนส่ง เคลื่อนย้าย กระจาย จัดเก็บได้อย่างครบวงจร (One Stop Service) หรือแม้กระทั่งการบรรจุสินค้าเข้าตู้ก็ควรจะมีการวางแผนที่ดีเช่นกัน เพื่อให้การตรวจสอบสินค้าที่ปลายทางเป็นไปอย่างราบรื่น ประหยัดเวลา และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
หลังจากรู้ข่าวนี้ หลายท่านที่ชอบซื้อส้มที่มีใบหรือกิ่งก้านติดอยู่ เพราะความสวยงามหรือเป็นสิริมงคล ก็คงจะเปลี่ยนใจไม่สนับสนุนของผิดกฎหมายกันต่อไปอีกแล้ว (ใช่ไหมคะ)
สุวิตรี ศรีมงคลวิศิษฎ์