
CEO ARTICLE
ส่งออกชั่วคราวเพื่อซ่อม
Published on March 18, 2025
Follow Us :
ทำอย่างไรให้เครื่องจักรส่งออกชั่วคราวเพื่อซ่อมได้ยกเว้นอากรเมื่อนำกลับ ?
ประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตเครื่องจักร เครื่องมือ หรืออุปกรณ์เทคโนโลยีสูงยังไม่ดีมาก ทำให้ส่วนใหญ่ต้องสั่งซื้อ และนำเข้า (Import) จากต่างประเทศ
เมื่อใช้งาน เครื่องจักรเหล่านี้มีโอกาสเสียหาย หรือชำรุดจนต้องส่งออกไปซ่อม
ผู้นำเข้าบางรายจำเป็นต้องการส่งเครื่องจักรไปยังประเทศผู้ผลิตเพิ่มอุปกรณ์ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ทำสีใหม่ และอื่น ๆ และเมื่อนำกลับ (Re-Import) ก็ต้องการได้รับยกเว้นอากร
การส่งออกชั่วคราวเพื่อนำกลับ และการนำเข้าปกติ (Import) สามารถยกเว้นอากรได้ ภายใต้ พรก. พิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ภาค 4 ซึ่งมีลักษณะของ หรือสินค้าถึง 19 ประเภท
ของที่ส่งออกชั่วคราวถูกจัดให้อยู่ในประเภท 1 และ 2 ซึ่งสรุปได้ ดังนี้
ประเภท 1 เป็นเรื่องของที่ส่งออกชั่วคราว มีเงื่อนไขว่าเมื่อนำกลับเข้ามา (Re-Import) ของนั้นต้อง “ไม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะหรือรูป” จะได้ยกเว้นอากร (บทความที่ 865)
ประเภท 2 เป็นเรื่องของ หรือวัตถุดิบที่ส่งออกชั่วคราวไปผลิต มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะหรือรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เมื่อนำกลับเข้าจะได้ยกเว้นอากร (บทความที่ 870)
ในส่วนประเภท 2 ยังรวมถึงของส่งออกชั่วคราวเพื่อซ่อม เช่น เครื่องจักร เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะ หรือรูปตามบทความนี้ให้ได้ยกเว้นอากรเมื่อนำกลับเช่นกัน
เงื่อนไขของการส่งออกชั่วคราวเพื่อซ่อมให้ได้ยกเว้นอากร ดังนี้
1. คำว่า “ของส่งออกไปซ่อม
หมายถึง ของนำเข้าจากต่างประเทศ เสียอากรไว้ครบถ้วนแล้ว เช่น เครื่องจักร เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีสูง ส่งออกไปซ่อมในต่างประเทศ และนำกลับภายใน 1 ปี
หากเครื่องจักร เครื่องมือ หรืออุปกรณ์เป็นของนำเข้าโดยได้ยกเว้นอากรตามข้อตกลง FTA (Free Trade Agreement) ก็ต้องมีหลักฐานการนำเข้ามาแสดงก่อนการส่งออก
แต่หากเป็นการนำเข้าภายใต้ BOI ต้องแจ้งต่อ BOI ให้อนุมัติก่อนการส่งออกไปซ่อม
2. ต้องมีใบสุทธินำกลับ
ขณะส่งออกต้องทำใบสุทธินำกลับ (Re-Import Certification)
อธิบดีกรมศุลกากรมีอำนาจผ่อนผันทั้งใบสุทธินำกลับ และการขยายเวลานำกลับได้ตามความจำเป็นภายใต้เงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด
3. ยกเว้นอากรเฉพาะมูลค่าเดิม
ให้ยกเว้นอากรเฉพาะเท่ามูลค่าของเดิม เช่น มูลค่าเครื่องจักรเดิม
ส่วนมูลค่าของและปริมาณของที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่าซ่อม ค่าอุปกรณ์ที่เพิ่ม หรือของอื่นที่เพิ่มขึ้นจากของเดิมที่ส่งออก ให้แยกมูลค่าออกมาโดยมีหลักฐานเพื่อเสียอากร
4. การกำหนดพิกัดสินค้า
การกำหนดพิกัดและอัตราอากรสำหรับค่าแรง ค่าซ่อม ค่าอุปกรณ์ที่เพิ่ม หรือของอื่นที่เพิ่มจากของเดิมที่ส่งออก เมื่อติดตั้งอยู่ในเครื่องจักร เครื่องมือ หรืออุปกรณ์เดิมให้ใช้พิกัดสินค้าเดิม
ข้อแนะนำเมื่อส่งของชั่วคราวออกไปซ่อมให้ได้ยกเว้นอากรเมื่อนำกลับ
ก่อนส่งออกควรถ่ายภาพเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ และเลขหมายเครื่อง (Serial No.) เพื่อยืนยันเป็นเครื่องเดียวกันกับที่จะนำกลับ และยื่นต่อกรมศุลกากร
ขณะนำกลับควรจัดทำใบกำกับสินค้า (Invoice) แสดงมูลค่าของเดิม และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นภายหลังการซ่อม เช่น ค่าซ่อม ค่าทำสีใหม่ ค่าอุปกรณ์ที่เพิ่ม หรือค่าเทคโนโลยีให้ชัดเจน
หากสามารถหาหลักฐานประกอบส่วนที่ซ่อม มีสัญญาซ่อม (Contract) มีใบรับเงินค่าซ่อม (Receipt) หรือหลักฐานอื่นจากผู้ซ่อมต่างประเทศที่สร้างความน่าเชื่อถือก็ควรนำมาประกอบเพื่อใช้ยื่นเสียภาษีอากรเฉพาะในส่วนค่าซ่อม
การส่งออกชั่วคราวเพื่อซ่อมเป็นกิจกรรมที่กฎหมายให้ยกเว้นอากรเมื่อนำกลับ
การนำเข้าและการส่งออกยังมีกิจกรรมอื่นอีกมากเพื่อทำต้นทุนให้ต่ำ ให้ถูกกฎหมาย และเขียนในหนังสือ “การค้าระหว่างประเทศ” (International Trade) โดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
หนังสือมีขนาด 17.6 x 25 cm จำนวน 408 หน้าจะวางจำหน่ายตามแผงหนังสือเร็ว ๆ นี้.
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
(พื้นที่โฆษณา)
โฉนดแลกเงินด่วน ดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.75% ต่อเดือน ถูกกฎหมาย
อนุมัติใน 3 วัน ทำสัญญาที่สำนักงานเขตที่ดิน ไม่เช็คบูโร
ติดต่อ https://inno-home.com/loan-lead/
อ่านบทความอื่นที่เขียนโดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร ได้ที่ http://snp.co.th/e-journal/
Date Published : March 18, 2025

Logistics
ความคืบหน้าของการก่อสร้างด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะ (Smart Port)
ด่านโหย่วอี้กวน ตั้งอยู่อำเภอระดับเมืองผิงเสียง เมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เป็นด่านทางบกเชื่อมต่อประเทศในกลุ่มอาเซียนที่สะดวกที่สุดของจีน โดยมีชายแดนติดกับประเทศเวียดนาม และเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของเส้นทางการขนส่งทางบกเชื่อมกับทางทะเลทางภาคตะวันตก” (New International Land-Sea Trade Corridor) ที่เป็นส่วนหนึ่งในกรอบโครงการความเชื่อมโยงเชิงยุทธศาสตร์จีน (ฉงชิ่ง) – สิงคโปร์ รวมถึงเป็นด่านทางบกนำเข้าผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของจีน
ด่านโหย่วอี้กวนจึงได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนกลางให้สร้างเป็นโครงการด่านทางบกข้ามพรมแดนแบบอัจฉริยะ (Smart Port) แห่งแรกของประเทศจีน ซึ่งโครงการนี้ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 ในพื้นที่ระหว่างด่านโหย่วอี้กวน (จีน) – ด่านหูหงิ (เวียดนาม) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาช่องทางการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์แบบไร้คนขับสำหรับการขนส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างด่านโหย่วกวนและด่านหูหงิ และบรรลุการผ่านด่านได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยรัฐบาลประชาชนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบนําทางด้วยดาวเทียมและสัญญาณ 5G ใช้รถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์แบบไร้คนขับ (IGV) อุปกรณ์เครนอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบตู้คอนแทนเนอร์ (H986) ระบบตรวจสอบภาพอัจฉริยะ และสามารถดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูลโลจิสติกส์ข้ามพรมแดนระหว่างเวียดนามและจีนได้ สามารถควบคุมกำกับดูแลสินค้าด้วยระบบสมาร์ท การตรวจสอบแบบครบวงจร และการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนโดยอัตโนมัติ
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 สคต.ณ เมืองหนานหนิง พร้อมด้วยทีมประเทศไทย ประกอบด้วย สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง สำนักงานที่ปรึกษาฝ่ายเกษตรกว่างโจว และสำนักงานศุลกากรประจำนครกว่างโจว ได้เดินทางไปด่านโหย่วอี้กวนเพื่อสำรวจความคืบหน้าสถานการณ์ของด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะ และสำรวจความพร้อมของด่านก่อนฤดูกาลผลไม้ไทยในปี 2568 พบว่าปัจจุบันโครงการด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองการใช้งาน พื้นที่ด่านอัจฉริยะมีระบบนำเข้าส่งออกสินค้าในพื้นที่ควบคุม โดยแยกจากพื้นที่การนำเข้าส่งออกเดิม ในพื้นที่ด่านอัจฉริยะจะใช้รถไร้คนขับ (IGV) ส่งมอบ/เคลื่อนย้ายตู้สินค้า และมีโครงยกตู้สินค้าเพื่อขนถ่ายสินค้าแบบอัตโนมัติ
สินค้าที่ผ่านด่านทุกประเภทสามารถใช้บริการได้ รวมถึงสินค้าที่ต้องการตรวจสอบและกักกันโรค เช่น ผลไม้ หากผลไม้ไทยที่มาถึง จะผ่านโมเดลการทำงานของ Smart Port ดังนี้ ตู้คอนเทนเนอร์ผลไม้ขึ้นรถขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ไร้คนขับ (IGV) ที่ลานสินค้าชูนเจียงของประเทศเวียดนามโดยผ่านอุปกรณ์เครนอัตโนมัติ แล้วขับผ่านเส้นศูนย์กิโลเมตรชายแดนจีน – เวียดนาม ผ่านระบบตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ (เครื่องเอ็กซเรย์ขนาดใหญ่) ถ้าสินค้าที่ไม่มีปัญหาจะส่งไปลานสินค้าเพื่อส่งมอบสินค้าโดยตรงได้ สำหรับสินค้าที่ถูกสุ่มตรวจจะไปต่อที่พื้นที่ตรวจสอบและกักกันสินค้าต่อเพื่อรับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ของศุลกากร
เจ้าหน้าที่ด่านโหย่วอี้กวนให้ข้อมูลว่าด่านอัจฉริยะดังกล่าวคาดว่าจะสามารถใช้งานอย่างเป็นทางการได้ภายในเดือนมิถุนายน 2568 โดยด่านโหย่วอี้กวนจะใช้ระบบการนำเข้าและส่งออกสินค้ารูปแบบเดิมควบคู่กับระบบอัจฉริยะ ซึ่งจะทำให้ด่านสามารถรองรับปริมาณรถเข้าออกด่านเพิ่มขึ้นจากเดิมได้ถึงหนึ่งเท่าตัว คิดเป็น 2,800 – 3,000 คันต่อวัน (เดิมรถเข้าออกประมาณ 1,200 – 1,500 คันต่อวัน)
หลังจากการใช้งานอย่างเป็นทางการ ด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะจะช่วยลดต้นทุน และสามารถยกประสิทธิภาพในการผ่านด่าน กล่าวคือ รูปแบบการทำงานของ Smart Port จะลดขั้นเอกสารที่ต้องยื่น 28 ฉบับ แ ละลดขั้นตอนการพิธีการศุลกากร 28 รายการ รวมถึงลดแรงงานในการตรวจสอบร้อยละ 50 นอกจากนี้ ยังช่วยลดความแออัดของรถบรรทุกสินค้าที่ด่าน ซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดต้นทุนของสินค้ากว่า 1,000 หยวนต่อตู้ ทั้งนี้ ด่านอัจฉริยะดังกล่าวสามารถดำเนินงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และการขนส่งสินค้าจากเมืองฮานอยถึงเมืองหนานหนิงจะใช้เวลาภายใน 24 ชั่วโมง
ความเห็น สคต.ณ เมืองหนานหนิง ด่านโหย่วอี้กวนเป็นด่านทางบกนำเข้าผลไม้ที่ผู้ประกอบการบริษัทนำเข้าผลไม้เลือกใช้มากที่สุดด่านหนึ่ง ด้วยด่านนี้มีความสะดวกทั้งในด้านระยะเวลาการขนส่ง และต้นทุนการขนส่งได้เปรียบ ประกอบกับความได้เปรียบทำเลที่ตั้ง นอกจากนี้ด่านโหย่วอี้กวนยังเป็นด่านที่นิยมในการนำเข้าผลไม้จากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนของจีน ที่ผ่านมาระหว่างช่วงฤดูกาลผลไม้จะเกิดเหตุการณ์ความหนาแน่นของการจราจรที่บริเวณด่าน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อคุณภาพของผลไม้ต่อ ดังนั้น การก่อสร้างโครงการด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะ (Smart Port) ระหว่างด่านโหย่วอี้กวน (จีน) – ด่านหูหงิ (เวียดนาม) จะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ใช้การขนส่งสินค้าผ่านด่านนี้มายังตลาดจีน เนื่องจากเป็นการยกระดับประสิทธิภาพการตรวจสอบสินค้าผ่านด่านมากยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงด้านความเสียหายของผลไม้ในระหว่างการขนส่งสินค้าผ่านด่าน แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคาดการณ์ว่าด่านโหย่วอี้กวนแบบอัจฉริยะจะใช้งานอย่างเป็นทางการภายในเดือนมิถุนายน 2568 สำหรับฤดูกาลส่งออกผลไม้ไทยที่กำลังจะมาถึง ผู้ประกอบการไทยยังคงต้องพิจารณาเลือกใช้ช่องทางการส่งออกมายังจีนนอกเหนือจากด่านโหย่วอี้กวนในเขตปกครองฯ กว่างซี ยังมีด่านที่มีการพร้อมในการนำเข้าผลไม้ไทย ได้แก่ ด่านรถไฟผิงเสียง ด่านตงซิง ด่านท่าเรือชินโจว ด่านสนามบินนานาชาติอู๋ซวีหนานหนิง ด่านหลงปัง และด่านอื่นๆ ในมณฑลยูนนาน และมณฑลกวางตุ้ง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสินค้าเสียหายระหว่างการรอการขนส่งผ่านด่าน
ที่มา: https://www.ditp.go.th/post/197882
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!