CEO ARTICLE
“สินค้ายิ้มได้”
“เราทำงานที่นี่เหมือนอยู่ในนรกเลย”
“ทำไมละ ?”
“ก็ดูซิ คนที่นี่คอยแต่จับผิดกัน ทำงานก็กล้า ๆ กลัว ๆ อย่างหวาดระแวง ไม่มีใครกล้าทำผิดกันเลย ทุกคนเอาแต่ทำให้ถูกอย่างเดียว ใครเป็นคนของหัวหน้าแล้วทำผิดก็จะได้รับการปกป้องตลอดโดยไม่สนว่าถูกผิดจริง ๆ คืออะไร ส่วนใครไม่ใช่พวก เวลาทำผิดก็ถูกโดดเดี่ยว”
“เฮ้ย ที่มันไม่ใช่สำนักงานแล้วนะ มันนรกอย่างเธอว่า”
ประโยคข้างต้นหากเกิดกับสำนักงานใด สำนักงานนั้นก็ไม่น่าจะมีความสงบสุขแต่อย่างใด ส่วนคนทำงานก็คงมีสภาพเหมือนอยู่ในนรกอย่างว่า
สำนักงานมีสภาพไม่ต่างไปจากบ้าน โรงเรียน หรือชุมชน
สถานที่เหล่านี้ย่อมมีคนอาศัยรวมกันมาก หากคนทำงานเฝ้าแต่ทำสำนักงานให้มีสภาพเป็นสนามรบ
อะไรจะเกิดขึ้น ???
สำนักงานใหญ่โต หรูหรา ทันสมัย มีเครื่องอำนวยความสะดวกครับ แต่หากคนทำงานไม่ช่วยเหลือกัน มีการสอดแนม มีการแอบฟัง มีการฟ้อง มีการแย่งชิง มีการป้องกันตัว มีความอิจฉาริษยา มีการจับผิดและโยนความผิดให้กัน
ต่างฝ่ายต่างเข้าหาระบบอุปถัมภ์เพื่อประโยชน์ส่วนตนให้มากที่สุด
สำนักงานแห่งนี้ก็คือ นรก
ตรงกันข้าม สำนักงานที่มีสภาพเล็ก เก่า โบราญ และขัดสน แต่หากคนทำงานต่างคนต่างช่วยเหลือกัน ต่างร่วมกันสร้างความสุข
สำนักงานแห่งนี้ก็คือ สวรรค์
สำนักงานที่มีแต่รอยยิ้มและคนทำงานต่างมีความสุข สินค้าและบริการที่ผลิตออกมาจากสำนักงานแห่งนี้แล้วส่งผ่านไปยังลูกค้า
สินค้าและบริการนั้นก็ย่อมเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข
ทำไมสินค้าและบริการจะมีรอยยิ้มและความสุขไม่ได้ ??
ง่าย ๆ ใครไม่เชื่อก็ลองทำสำนักงานของตนให้มีสภาพเป็นสนามรบ แล้วดูซิว่าสินค้าและบริการที่ออกจากสำนักงานนี้แล้วส่งผ่านไปยังลูกค้าจะมีสภาพอย่างไร
มันต่างกันแน่นอน
เมื่อลูกค้าได้รับสินค้าและบริการก็จะได้รับรอยยิ้มและความสุขตามไปด้วย องค์กรแบบนี้ย่อมมีความเจริญก้าวหน้า
ส่วนคนทำงานก็มีความสุขและความมั่นคงตามไปด้วย
ขนาด ความทันสมัย และตัวสำนักงานจึงไม่ใช่ส่วนสำคัญ ส่วนที่สำคัญสุดของสำนักงาน บ้าน โรงเรียน หรือชุมชน ก็คือสมาชิกที่อยู่ร่วมกันต่างหาก
สมาชิกในสำนักงาน ในบ้าน โรงเรียนหรือในชุมชนคือผู้มีอิทธิพลสูงสุด
ผู้นำเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะตั้งนโยบายสวยหรูเพื่อสร้างสำนักงานแห่งความสุขอย่างไรก็ไม่สามารถสร้างความสำเร็จได้
หากสมาชิกในนั้นไม่ร่วมมือ
ตรงกันข้าม ผู้บริหารหรือพนักงานเพียงคนเดียว หากสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง คนเพียงคนเดียวในสำนักงานก็อาจทำให้สำนักงานกลายเป็นสนามรบได้อย่างเหลือเชื่อ
สำนักงานก็คือสำนักงาน ไม่ว่าบ้านโรงเรียน หรือชุมชนก็ไม่ต่างกัน มันอยู่ที่สมาชิกที่อยู่ร่วมกันจะร่วมกันสร้างให้เป็นสนามรบหรือไม่
คน ๆ เดียวก็เป็นนักรบที่น่ากลัวได้
สำนักงาน บ้าน โรงเรียน หรือชุมชนบางแห่งที่เคยเป็นสนามรบมาก่อน พอนักรบที่น่ากลัวจากไป สำนักงานนั้นก็กลายเป็นสถานที่แห่งความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ
สมาชิกในสถานที่ที่รู้ ที่เห็น ที่เข้าใจ และไม่ร่วมมือกับนักรบ ไม่สอดแนม ไม่รายงาน ไม่วิ่งหาระบบอุปถัมภ์ ยึดส่วนรวมเป็นศูนย์กลาง
นักรบที่น่ากลัวก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน
การจะเปลี่ยนสำนักงานให้เป็นสนามรบไม่ยาก การเปลี่ยนจากสนามรบให้เป็นสำนักงานแห่งความสุขก็ไม่ยาก และการสร้างรอยยิ้มให้ติดกับสินค้าและบริการก็ยิ่งไม่ยาก
มันง่ายเพียงพลิกผ่ามือ
ข้อความที่ส่งกันในโซเซียลบอกว่า
ถ้ารู้สึก “เบื่องาน” เมื่อไหร่ ลองไปนั่งดู “คนมาสมัครงาน” หรือ “คนมารอสัมภาษณ์” ที่บริษัท จะเห็นเลยว่ามีคนอีกมากมายที่อยากได้ทำงานแบบที่เราทำอยู่
ถ้ารู้สึกว่า “ยังไม่รวย” ลองไปดูคนจนที่หาเช้ากินค่ำ คนที่ไม่มีเงินติดกระเป๋า คนที่ต้องนอนบ้านสังกะสีที่แทบกันลมกันฝนอะไรไม่ได้เลย
ถ้ารู้สึก “ไม่ค่อยมีความสุข” ลองเดินเข้าไปในโรงพยาบาล จะเห็นคนป่วยนอนให้น้ำเกลือ นอนให้ออกซิเจนเต็มไปหมด คนป่วยที่อยากแค่เดินได้และแข็งแรงเหมือนเรา
บางทีเราก็ “เผลอ” คิดว่าเรายัง “ขาด” อีกมากมาย ทำให้เราไม่มีความสุข แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีคนอื่นมากมายที่ขอแค่ “มี” เท่าที่เรามี เขาก็สุขใจที่สุดแล้ว
ดังนั้น “อย่ามัวมองหาความสุขจากสิ่งที่ขาดจนพลาดความสุขจากสิ่งที่มี”
เพียงเท่านี้ เพียงเท่านี้จริง ๆ
สินค้าและบริการที่เกิดจากสำนักงานนี้ก็จะมีรอยยิ้มและความสุขประทับอยู่ เมื่อส่งผ่านไปยังลูกค้า ผู้รับก็จะมีรอยยิ้มและความสุขตามไปด้วย
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
The Logistics
วันคนโสด กับ การค้าขายสมัยใหม่
คนโสดฟังทางนี้ เพิ่งผ่านวันที่ 11 เดือน 11 ไปไม่นาน หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันคนโสด (Singles’ day) ค่ะ คนโสดอย่างเราก็เริ่มสนใจและค้นหาในเน็ต ว่ามันมีวัฒนธรรมอันนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หรือ เราอาจจะเคยได้ยินข่าววันคนโสดกันมาบ้าง แต่ก็ลืมไปแล้ว ซึ่งในอนาคตอีกสักหลายสิบปีร้อยปีวันคนโสดอาจจะมีอิทธิพลต่อชาวโลกอย่างมากเหมือนกับวันวาเลนไทน์ก็ได้ ความเป็นมาของวันคนโสดเริ่มต้นจากกลุ่มนักศึกษาจีนเมื่อราวๆ ปี 2533 ซึ่งเป็นการจัดภายในมหาวิทยาลัยเท่านั้น! แต่เพราะสื่อออนไลน์จึงทำให้เทศกาลนี้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และมีความนิยมมากขึ้นๆทุกปี จนถึงตอนนี้ได้กลายเป็นวัฒนธรรมป๊อปปูล่าอย่างหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นจีนไปแล้ว
ทำไมถึงต้องเป็นวันที่ 11 เดือน 11 หลายคนคงเดาได้ใช่ไหมคะ ก็เพราะเจ้าเลข 1 ที่สื่อถึงความเปล่าเปลี่ยวตัวคนเดียวเนี่ยล่ะค่ะ เมื่อมีเลข 1 ถึง 4 ตัว ก็เลยนับเอาเป็นวันดี มีการจัดเทศกาลฉลองคนโสดเพื่อเปิดโอกาสให้คนไร้คู่ ได้ออกมาพบปะสังสรรค์หรือทำความรู้จักกันนั่นเอง
สำหรับวันคนโสดในปีนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการค้าในประเทศจีนอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะเชื่อว่าจีนจะเป็นผู้นำเทรนด์การค้าโลก โดยมีแนวโน้มว่า ผู้คนจะนิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์ของจีน อาทิเช่น อาลีบาบา, ทีมอลล์, ตั๋งตั๋ง และอเมซอน ได้จัดมหกรรมลดราคาสินค้ามากมายต้อนรับเทศกาลคนโสด เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้สั่งซื้อสินค้าเป็นของขวัญให้คนที่แอบชอบ ซึ่งในปีนี้มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก จนกระทั่งต้องจ้างพนักงานทำงานล่วงเวลาในวันดังกล่าวราว 800,000 คน
สิ่งสำคัญที่จะอุ้มชูและอยู่คู่กับการค้าขายทางอินเตอร์เน็ต/E-commerce ก็คือ ระบบโลจิสติกส์ที่ดี ผู้ขายสินค้าจะต้องมีการวางแผนอย่างรัดกุมในการรวบรวม เคลื่อนย้าย กระจาย ตลอดจนจัดเก็บสินค้าไม่ให้ขาดสต๊อก ฯลฯ นอกจากคุณภาพสินค้าและการบริการของเจ้าหน้าที่ของแต่ละเว็บไซต์ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้บริการแล้ว การขนส่ง/จัดส่งสินค้าอย่างมืออาชีพเพื่อให้สินค้าถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยและตรงเวลา ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเมื่อเทรนด์การค้าโลกได้พัฒนาไปไกลจนไร้พรมแดนอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง หลายประเทศก็เร่งพัฒนาคน พัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาระบบโลจิสติกส์ และพัฒนาทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างบูรณาการ หนึ่งในหลายประเทศที่ว่าเป็นประเทศไม่ใกล้ไม่ไกลก็ไทยเรานี่เองค่ะ
สุวิตรี ศรีมงคลวิศิษฎ์
ขอบคุณข้อมูลจาก http://lifestyle.campus-star.com/knowledge/40769.html