CEO ARTICLE
คน 3 เก่ง
คนจะประสบความสำเร็จควรมีความเก่งอย่างน้อยกี่ด้าน ?
คนเกิดมาจะมีความเก่งกี่ด้านก็ได้ตามใจปรารถนา และความสามารถที่ทำได้
แต่หากต้องการเพียงความสุขในครอบครัว ความสำเร็จในงาน และชีวิตที่ไม่ต้องการความเด่นดังใด ๆ ความเก่งแค่ 3 ด้านก็เพียงพอที่จะสร้างความสุขและความสำเร็จในชีวิตได้แล้ว
1. เก่งงาน (Technical Skill)
คนเก่งงานไม่ได้หมายถึง คนมาเช้า ขยัน และทุ่มเทให้กับงานเพียงอย่างเดียว
แต่หมายรวมถึง คนทำงานที่ยึดมั่นระบบ รูปแบบ มุ่งมั่นเรียนรู้งาน ทำงานอย่างมีแผนงาน มีขั้นตอนการทำงาน มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และทำแต่ละงานสำเร็จได้ตามเป้าหมายที่กำหนด
ระบบงานและการทำให้ได้ตามระบบจึงเป็นหัวใจของคนเก่งงาน
2. เก่งคิด (Perceptual Skill)
คนเก่งคิดไม่ได้หมายถึง คนคิดเพ้อฝัน คิดไปเรื่อยเปื่อย คิดโดยไม่มีทิศทาง
แต่หมายรวมถึง การคิดอย่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีทัศนคติดี มองสภาพแวดล้อมเชิงบวก คิดอย่างมีความรู้ มีประสบการณ์ มีแนวคิดและทฤษฎี มีกฎหมาย มีหลักการและเหตุผลรองรับ
แนวคิดและทฤษฎีคือ แนวทางที่พิสูจน์แล้วว่าดี และเป็นที่ยอมรับขององค์กรทั่วโลก
คนเก่งคิดจะสร้างแนวคิดและทฤษฎีของตนเองขึ้นมาก็ได้ แต่ปัญหาคือ คนยอมรับมีน้อย อาจไม่มีคนยอมรับ เสียเวลาพิสูจน์ มีแต่ความเสี่ยงที่จะผิดพลาด และเสียหายได้ง่าย
กฎหมายคือ ข้อบังคับให้ต้องปฏิบัติที่พัฒนามาจากประเพณีและวัฒนธรรม
คนเก่งคิดจะคิดโดยไม่ใส่ใจกฎหมายก็ได้ แต่สิ่งที่คิดออกมาจะมีความเสี่ยง อาจเป็นความผิดอย่างไม่รู้ตัว อาจถูกจับ ถูกลงโทษ นำไปสู่ความล้มเหลว และความทุกข์ได้ง่าย
หลักการและเหตุผลแบบง่าย ๆ หลักการคือ แนวคิด ทฤษฎี หรือกฎหมาย ส่วนเหตุผลคือ อพิสูจน์ หรือคำอธิบายว่า ทำไมจึงใช้แนวคิด ทฤษฏี หรือกฎหมายนั้นเพื่อยืนยันว่าหลักการที่เลือกนั้นถูกต้องแล้ว คนเก่งคิดที่ขาดแนวคิด ขาดทฤษฎี ไม่มีกฎหมายรองรับ ขัดต่อหลักการและเหตุผลจึงเป็นคนคิดไปเรื่อยเปื่อย มีแต่ความเสี่ยงมากกว่าโอกาส
คนเก่งคิดจึงต้องเรียนรู้ อบรม ร่วมการประชุม รับฟังมาก ๆ เข้าหาผู้มีประสบการณ์ตรง ผู้รู้จริงบ่อย ๆ อ่านบทความที่เป็นประโยชน์ อ่านรายงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามข้อมูล ข่าวสาร สภาพแวดล้อมทั่วประเทศ และที่เกิดขึ้นทั่วโลกเพื่อส่งเสริมความคิดให้เก่งในทิศทางที่ถูกต้อง
3. เก่งคน (Human Skill)
คนเก่งคนไม่ได้หมายถึง การรู้จักคนมากมาย
แต่หมายรวมถึง การเข้าใจผู้อื่น การช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเหมาะสม การเข้าสังคมรอบข้างได้ดี การมีส่วนร่วมในกิจกรรมครอบครัวและองค์กร การมีมนุษยสัมพันธ์ดี พูดจาดี มีสัมมาคารวะต่อผู้อาวุโส ใช้ภาษากายเหมาะสม ทำตัวมีคุณค่า มีภาพลักษณ์ และเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง
3 เก่งเป็นพื้นฐานที่เข้าใจไม่ยาก แต่เก่งใดมีความสำคัญที่สุดที่ควรเริ่มก่อน ?
“เก่งงาน” และ “เก่งคิด” เป็นความชำนาญ (Skill) ที่ต้องใช้เวลา ต้องเรียนรู้ และต้องฝึกฝน
“เก่งคน” ทำได้ง่ายกว่า เริ่มได้ทันทีจากรอยยิ้ม ร่าเริง แจ่มใส ทักทายผู้อื่น อ่อนน้อมถ่อมตน และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีให้กับคนรอบข้างจนเกิดโอกาสได้เรียนรู้ ได้ฝึกฝน ได้ที่ปรึกษาที่ดี และได้รับประสบการณ์จากผู้รู้จริงจนเกิดการพัฒนาไปสู่การเก่งงาน และเก่งคิด
ในพงศาวดารจีน “สามก๊ก” เล่าปี่ไม่เก่งงานและไม่เก่งคิด อดีตมีแต่ความล้มเหลว
แต่เล่าปีเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี เมื่อมีคนแนะนำให้เข้าหาขงเบ้งก็มุ่งมั่น พยายามเข้าหาจนได้ขงเบ้งเป็นที่ปรึกษา และสามารถสร้างแผ่นดินของตนจนเป็นคนมีชื่อเสียง
ตรงกันข้าม หากคนเก่งงานและเก่งคิด แต่ไม่เก่งคน ขาดมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ไม่มีใครอยากมาเป็นทีมงานก็ต้องเหนื่อยทำคนเดียว ความสุขและความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ยาก
เก่งคนจึงมีความสำคัญที่สุด เริ่มต้นง่ายที่สุด เริ่มต้นได้วันนี้ นำคน ๆ หนึ่งไปสู่การเก่งงานและเก่งคิดจนครบ 3 เก่ง นำความสุข และความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้ไม่ยาก.
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
for Home and Health,
please visit https://www.inno-home.com
อ่านบทความอื่นที่เขียนโดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร ได้ที่ http://snp.co.th/e-journal/
Date Published : November 5, 2024
Logistics
บังกลาเทศประกาศยกเว้นภาษีนำเข้าและอากรควบคุมสินค้าข้าว (เพิ่มเติม)
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ราชกิจจานุเบกษาบังกลาเทศ โดยกระทรวงการคลังบังกลาเทศ ได้เผยแพร่ประกาศเลขที่ S.R.O. No-381-Ain/2024/94/Customs ว่าด้วยการยกเว้นอัตราภาษีนำเข้าชั่วคราว สินค้าพิกัด 1006.30.99 ชนิดสินค้าข้าวนึ่งและข้าวขาว (ข้าวธรรมดาที่มิใช่ข้าวหอม) โดยยกเว้นอัตราภาษีศุลกากร (Custom Duty) เหลือร้อยละ 0 จากอัตราปกติร้อยละ 25 และอากรควบคุมสินค้านำเข้า (Regulatory Duty) เหลือร้อยละ 0 จากอัตราปกติร้อยละ 25 ส่งผลให้อัตราภาษีรวม (Total Tax Incidence) ของสินค้าพิกัดดังกล่าวลดลงเหลือร้อยละ 5.00 (จากอัตราภาษีรวมปกติร้อยละ 62.50) การลดหย่อนอัตราภาษีใหม่นี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป สาเหตุการลดภาษีนำเข้า เนื่องจากบังกลาเทศต้องการกระตุ้นให้ภาคเอกชนนำเข้าข้าวจากต่างประเทศมากขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณข้าวในตลาดภายในประเทศ และตามราชกิจจานุเบกษาบังกลาเทศฉบับดังกล่าวนั้น กำหนดเงื่อนไขรายละเอียดให้ผู้นำเข้าแต่ละรายที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีต้องสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อแจ้งขอใช้สิทธิต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งต้องแจ้งปริมาณนำเข้า ช่วงเวลานำเข้า
บังกลาเทศจะมีการประกาศลดหย่อนภาษีนำเข้าข้าวเป็นช่วงๆ ตามสถานการณ์ในประเทศ ดังนั้น จึงถือเป็นโอกาสของผู้ส่งออกข้าวนึ่งและข้าวขาวของไทย พิจารณาการส่งออกข้าวไปบังกลาเทศ ข้อมูลการนำเข้าข้าวไทยล่าสุดมีขึ้นในปี 2566 บังกลาเทศนำเข้าข้าวนึ่งจากไทยมีมูลค่า 52 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปริมาณ 1.1 แสนตัน ซึ่งเป็นสถิติการนำเข้าสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561 ผู้ส่งออกที่สนใจส่งออกข้าว อาจต้องพิจารณาส่งออกข้าวไปตลาดบังกลาเทศใน 2 ช่องทาง ได้แก่ (1) ช่องทางการซื้อขายตามปกติกับเอกชนบังกลาเทศที่ต้องการนำเข้าข้าว และ (2) จากการประกาศจัดซื้อข้าวจากนานาชาติของรัฐบาลบังกลาเทศที่ออกมาเป็นครั้งคราว ซึ่งใน 2 ช่องทางนี้ ผู้ส่งออกจำเป็นต้องมีคู่ค้าในบังกลาเทศเพื่อดำเนินการด้านเอกสารและการประสานงานกับบริษัทในบังกลาเทศ
ผู้ส่งออกที่สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงธากา ที่อีเมล thaitcdhaka@gmail.com
ที่มา: https://www.ditp.go.th/post/186888
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!