SNP NEWS

ฉบับที่ 523

Follow Us :       

CEO ARTICLE

Beautiful Thailand

น.ต. สมาน กุนัน คือฮีโร่ตัวจริง
วันนี้ สถานการณ์ช่วยชีวิต 13 หมูป่าจบลงแล้ว ทั่วโลกต่างยกย่องให้ น.ต. สมาน กุนัน คือ ฮีโร่ตัวจริงที่ยอมสละ 1 ชีวิตเพื่อ 13 ชีวิต

ขณะเดียวกัน หน่วยซีลกองทัพเรือ กองกำลังทัพบก กองทัพอากาศ กำลังตำรวจตระเวนชายแดน อาสาสมัคร ข้าราชการพลเรือนฝ่ายมหาดไทย เอกชนที่ขนเครื่องไม้เครื่องมือ ร้านนวด ร้านซักผ้า ชาวนา คนทำครัว จิตอาสามากมาย นักดำน้ำและนักกู้ภัยระดับโลกหลาย ๆ ประเทศ

ทั้งหมดต่างก็ได้รับการยกย่องว่า นี่คือ ฮีโร่ตัวจริงที่มีชีวิตรอดมาได้

ส่วนภารกิจนี้จะยากขนาดไหนก็ต้องดูที่นักสำรวจและนักกู้ภัยระดับโลกให้ข้อมูล เขาบอกว่าไม่เคยเจองานหินอย่างนี้มาก่อน หากไม่มีการร่วมมือร่วมใจและการวางแผนที่ดี คิดว่าคงต้องมีความสูญเสียมากกว่านี้

วันนี้ไม่มีการสูบน้ำแล้ว ภาพที่เห็นคือ น้ำไหลกลับมาเต็มถ้ำ สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า หากไม่มีการช่วยเหลือในวันนั้นอย่างเป็นระบบ 13 ทีมหมูป่าก็คงยังออกมาไม่ได้

ทั้งหมดนี้คือข้อเท็จจริง

ช่วงเวลานั้น ประเทศไทยดังกระหึ่มไปทั่วโลก ภาพความร่วมแรงร่วมใจกันทั่วประเทศ ทั่วโลก ต่างภาวนาและส่งใจ จนถึงกับเกิดคำใหม่สำหรับประเทศไทยขึ้นมา

‘Thailand is Beautiful’

‘ประเทศไทยสวยงาม’

ผู้กล่าวมิได้หมายถึง ความสวยงามทางภูมิประเทศของไทย แต่เขาหมายถึงความสวยงามทางจิตใจของคนไทยที่แสดงออกในช่วงเวลานั้นที่สัมผัสได้

ข่าวร่างทรง ข่าวความขัดแย้งการทางเมือง ข่าวอาชญากรรมต่าง ๆ ถูกเบียดตกหมดสิ้น ประชาชนไทยและทั่วทุกมุมโลกต่างก็เอาใจช่วยลุ้น

ภาวนาให้การค้นหาและช่วยชีวิตประสบความสำเร็จ

ประชาชนส่วนน้อยเท่านั้นที่เห็นตรงกันข้ามที่แสดงออกโดยทางสื่อโซเซียล และสื่อมวลชนบางสำนักจนเกิดการต่อต้าน

ตั้งแต่หมูป่าติดถ้ำวันที่ 23 มิถุนายน 2561 กระทั่งถูกช่วยออกมาในวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2561 สื่อทุกสำนักต่างใช้พื้นที่เสนอข่าวนับชั่วโมงต่อวัน

ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนกลายเป็นที่กล่าวขวัญ และคาดกันว่าจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของไทยโดยการพัฒนาของรัฐบาล

ในช่วงระหว่างที่ยังช่วยออกมาไม่ได้ สื่อมวลชนบางแห่งมีการเสนอข่าวการยกย่อง 13 หมูป่าก็เกิดขึ้น เพียงไม่นานก็ตามมาด้วยคำเตือนของนักวิชาการ แพทย์ และนักจิตวิทยา

สุดท้าย ทุกคนก็เข้าใจก็ตรงกันว่า 13 หมูป่าไม่ใช่ฮีโร่ แต่เป็นผู้ประสบภัยที่ต้องการรับการปฏิบัติเยี่ยงผู้ประสบภัย

แต่หลังจากการช่วยเหลือสำเร็จแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป

ผู้ว่าฯ ณรงศักดิ์ โอสถธนากร ถูกเข็น ถูกลุ้นให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่วันหนึ่งก็อาจถูกเชิญให้เข้าพรรคการเมือง หรือกลายเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองให้เปลืองตัว

การให้รางวัลหมูป่าที่เป็นผู้ประสบภัยกำลังจะเกิดขึ้น ในประเทศเริ่มมีคนขยับ องค์กรต่างประเทศก็ไม่น้อยหน้า บางประเทศจะให้สัญชาติ บางองค์กรเชิญไปชมการแข่งขันฟุตบอล เตรียมให้ทุนการศึกษา การจัดสร้างเป็นภาพยนต์ และอื่น ๆ อีกมาก

แพทย์ และนักจิตวิทยาเกรงว่า อาจมีการสัมภาษณ์หมูป่า อาจเชิญออกรายการ คำถามอาจกระทบต่อจิตใจ และผลสุดท้ายอาจเกิดการเข้าใจผิด เกิดลัทธิการติดถ้ำ การเอาอย่างเพื่อให้ได้รับความช่วยเหลือ เพื่อให้มีชื่อเสียง เป็นต้น

ต่าง ๆ นานาที่ตามมาเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นและถูกนำเสนอผ่านทางโซเซียลและสื่อมวลชนทั้งสิ้นจนหลายกรณี ฮีโร่ตัวจริงอาจได้รับความสำคัญน้อยลง
ปัจจุบัน สื่อโซเซียลมีอิทธิพลสูง แต่สื่อมวลชนกลับได้รับความน่าเชื่อถือกว่าและมีอิทธิพลสูงกว่าที่สามารถยุติ เปลี่ยนแปลงความเชื่อ หรือส่งเสริมสื่อโซเซียลก็ได้

ในอดีต คนไทยแตกแยกทางความคิดมาก สื่อมวลชนก็แตกแยกทางความคิด ราวสิบกว่าปีที่ผ่านมา สื่อมวลชนก็แบ่งแยกออกเป็น 2 ความคิด

ความคิดหนึ่งกล่าวว่า สื่อมวลชนมีบทบาทเป็นผู้นำทางสังคม ข่าว ข้อมูล หรือบทความใด ๆ จึงควรวิเคราะห์ผลก่อนนำเสนอ

สื่อมวลชนไม่ควรนำเสนอสิ่งที่อาจส่งผลเสียต่อสังคม

ส่วนอีกความคิดหนึ่งกล่าวว่า สื่อมีหน้าที่เพียงผู้นำเสนอ ไม่มีบทบาทชี้นำ ผู้บริโภคสื่อต้องมีความคิดเห็นเอง ต้องตัดสินใจจะเชื่อหรือไม่เชื่อเอง สื่อได้ข่าวใดมาอย่างไรก็เสนอไปอย่างนั้น

สื่อมวลชนไม่มีหน้าที่ชี้นำสังคม

ไม่มีใครู้ว่า ความขัดแย้งทางความคิดของสื่อยังมีอยู่ในปัจจุบันหรือไม่ แต่ผลจากการช่วยเหลือหมูป่า ประชาชนจำนวนมากอยากรู้เรื่องราวมากมาย คำถามที่ว่ามันเกิดอะไร ? เพราะอะไร ? ทำไม ? อย่างไร ?

ความอยากรู้นี้ทำให้สื่อมวลชนต้องลงไปเสาะหาเพื่อขายข่าว

สุดท้าย ความพยายามติดต่อ 13 หมูป่าในฐานะผู้ประสบภัยก็อาจเกิดขึ้น แล้วทุกอย่างก็อาจเปลี่ยนไปอย่างที่กังวล

หากผู้ประสบภัยเป็นผู้ใหญ่ก็เรื่องหนึ่ง แต่นี่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ช่วงที่ผ่านมาถึงกับมีข่าวเสนอนายกฯ ให้ใช้ ม. 44 ควบคุมและจัดการเรื่องนี้ แต่มาถึงวันนี้ นายกฯ ก็ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามครรลอง

Thailand is Beautiful ประเทศไทยสวยงาม คนไทยน้ำใจงามได้ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว

วันนี้ มันจึงถึงเวลาที่คนไทยน้ำใจงามต้องลุกขึ้นมาปฏิเสธข่าว ไม่ให้ความสำคัญต่อข่าวที่ยกย่องเยาวชนให้เกินเลยผู้ประสบภัย ไม่กดไลค์ ไม่กดแชร์ข่าวใด ๆ ที่เกินเลย และต้องร่วมใจกันปฏิเสธข่าวจากสื่อมวลชนที่พยายามเข้าเจาะตัวหมูป่า

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เด็กได้อยู่อย่างเด็กและเจริญเติบโตเป็นคนดี ให้เป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์และนักจิตวิทยาต่อไป

หากทำอย่างนี้ได้ ความสวยงามทางจิตใจก็คงอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไปอย่างแท้จริง

Thailand is Beautiful
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร

LOGISTICS

สิงค์โปร์-ฝรั่งเศส สานต่อเอฟทีเอ ‘อียู-อาเซียน’

เขตการค้าเสรีสหภาพยุโรป-อาเซียนที่เคยพูดถึงกันมานาน แต่เงียบไปไม่คืบหน้า ตอนนี้เริ่มมีข่าวดีแล้ว เมื่อนายกรัฐมนตรีลี เซียนหลุงของสิงค์โปร์เผยว่าทั้งสองฝ่ายเห็นชอบเริ่มต้นกระบวนการตั้งเอฟทีเอกันอีกครั้ง

เว็บไซต์แชนแนลนิวส์เอเชียรายงานว่า นายกรัฐมนตรีสิงค์โปร์กล่าวกับสื่อมวลชนหลังเข้าร่วมงานวันชาติฝรั่งเศส (14 ก.ค.) ที่กรุงปารีส เป็นผู้นำสิงค์โปร์คนแรกที่ได้รับเกียรตินี้โดยระบุว่าในฐานะผู้ประสานงานอาเซียนว่าด้วยความสัมพันธ์อาเซียน-อียูหลังจากเดือนสิงหาคมนี้ สิงค์โปร์หวังจะกำหนดขอบข่ายระบุสาขาที่พอจะร่วมมือกันได้ในการทำข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างกัน อียูและอาเซียนเปิดการเจรจาเอฟทีเอเมื่อปี 2550 แต่ยกเลิกกระบวนการไปเมื่อสองปีให้หลัง โดยอียูหันมาเจรจาทวิภาคีกับแต่ละประเทศแทน

สำหรับงานวันชาติฝรั่งเศสนั้น ทุกปีจะมีการจัดขบวนสวนสนามในกรุงปารีส เพื่อรำลึกถึงการทะลายคุกบาสติลในปี 2332 เริ่มต้นการปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งทุกๆปีฝรั่งเศสจะเชิญหนึ่งประเทศเข้าร่วมในขบวนสวนสนาม โดยปีก่อนเชิญประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ มาร่วมงานจนเจ้าตัวอยากจะจัดงานแบบเดียวกันนี้ที่สหรัฐบ้าง ปีนี้นอกจากสิงค์โปร์แล้ว นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นก็ได้รับเชิญด้วยเช่นกัน แต่จำต้องถอนตัวเนื่องจากญี่ปุ่นเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่

การที่สิงค์โปร์ได้รับเชิญจากฝรั่งเศสสะท้อนถึงความสัมพันธ์ทวิภาคีอันแข็งแกร่ง เครื่องบินจากกองทัพอากาศสิงค์โปร์และฝรั่งเศส แสดงแสนยานุภาพร่วมกันเหนือท้องฟ้ากรุงปารีส พร้อมกันนั้นทหารจากสิงค์โปร์และญี่ปุ่นเดินขบวนสวนสนามร่วมกับทหารกว่า 400 นายจากกองทัพฝรั่งเศสและอื่นๆ
หลังขบวนสวนสนาม ลีกล่าวว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสิงค์โปร์กับฝรั่งเศสดีมาก ทั้งสองประเทศมีโรดแมพว่าด้วย ความร่วมมือเชิงลึกด้านนวัตกรรมดิจิทัล ธรรมาภิบาลอินเทอร์เน็ตและความมั่นคงทางไซเบอร์

“ตอนเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุด ผู้ประกอบการไม่ดีบางคนเข้ามาเจาะระบบ แต่ฝรั่งเศสก็ปฏิบัติการรับมืออย่างมีประสิทธิผลยิ่งด้วยความเป็นกลาง ป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์แทรกแซงกระบวนการทางการเมืองภายในประเทศได้ ทั้งฝรั่งเศสและสิงค์โปร์ยังคุยกันถึงระบบความมั่นคงไซเบอร์ของเราเองด้วย เนื่องจากเราคุยกันเรื่องการเป็นสมาร์ทเนชั่น นำทุกระบบเข้าสู่ออนไลน์และคลาวด์” นายกฯ สิงค์โปร์ขยายความว่า การนำทุกอย่างไว้บนออนไลน์จำเป็นต้องมีระบบป้องกันอย่างดี ไม่เช่นนั้นก็เหมือนกับการเปลือยกายล่อนจ้อน ซึ่งทั้งฝรั่งเศสและสิงค์โปร์สามารถร่วมมือกันได้ในด้านนี้ โรดแมพความมั่นคงไซเบอร์จะเผยให้เห็นถึงความร่วมมือที่มากยิ่งขึ้น สะท้อนถึงเจตจำนงของทั้งสองฝ่ายที่จะทำงานร่วมกันให้มากขึ้นในเรื่องนี้

ที่มา: http://daily.bangkokbiznews.com/detail/338550