CEO ARTICLE
ชีวิตติดหล่ม
คำว่า “ทำไม่ได้” เป็นคำที่ทุกคนเคยได้ยินและเคยกล่าว แต่อาจส่งผลให้คนติดอยู่ในหล่มแห่งความล้มเหลว ไม่มีเงินออม ทำสิ่งที่ยากไม่ได้ และทำสิ่งที่ง่ายให้สำเร็จก็ยาก
How to … ทำอย่างไรให้ชีวิตหลุดออกจากหล่มที่ล้มเหลวเช่นนี้ ???
คำกล่าวในทางลบ ลักษณะปฏิเสธ เช่น คำว่า “ทำไม่ได้ ไม่รู้ ทำไม่ทัน ไม่มีคน ไม่มีเงิน” และอื่น ๆ อีกมากเป็นคำที่คนส่วนใหญ่ทั้งเคยได้ยิน เคยกล่าว และเป็นคำปกติธรรมดา
แต่ในความเป็นจริงคำกล่าวลักษณะปฏิเสธเหล่านี้ เมื่อกล่าวเป็นประจำทุกวัน กล่าวบ่อย ๆ คำเหล่านี้ย่อมติดอยู่ในสมองจนเกิดการจดจำในทางปฏิเสธอย่างไม่ตั้งใจ
เมื่อต้องคิดหรือทำเรื่องใดขึ้นมา ความคิดลบจะผลุดขึ้น ปากก็จะกล่าวปฏิเสธออกไป บางคนกล่าวปฏิเสธได้เร็วมาก ไม่ต้องเสียเวลาคิดแม้แต่เสี้ยววินาทีเพราะคำปฏิเสธติดอยู่ในสมอง ทุกอย่างเป็นไปโดยธรรมชาติ (Nature) เป็นการต่อต้าน ลดคุณค่าของตน และทำให้ชีวิตติดหล่ม
หากพิจารณาให้ดี เรื่องที่ทำไม่ได้เหล่านี้ หลายกรณีคนอื่นทำได้ และอีกหลายกรณีตนเองก็ทำได้ แต่เพราะคำที่ติดอยู่ในสมองทำให้กล่าวออกไปจนทำไม่ได้จริง ๆ
ตรงกันข้าม คนประสบความสำเร็จจะไม่กล่าวปฏิเสธบ่อย ๆ หรือกล่าวเมื่อได้คิดแล้ว และคิดอย่างมั่นใจแล้ว คนที่ไม่กล่าวคำปฏิเสธบ่อย ๆ จึงไม่มีคำเหล่านี้ติดค้างในสมอง
เมื่อใดที่พบเรื่องเกินความสามารถ เรื่องต้องคิด หรือต้องทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คำปฏิเสธจะไม่ออกมาจากปากทันที จะนิ่งมากกว่า สมองจะคิดถึงวิธีการทำอย่างไรให้รู้ ทำอย่างไรให้ได้ ให้ทันเวลา ทำอย่างไรให้มีคนช่วยงาน หรือให้มีแผนการเงินเพื่อเงินออมในอนาคตมากกว่า
คนพูดคำปฏิเสธบ่อย ๆ กับคนคิดก่อนพูดย่อมมีทัศนคติ มีวิสัยทัศน์ต่างกัน มีมุมมอง มีวิธีคิด วิธีทำงาน มีคุณค่า มีความมุ่งมั่น อนาคต และมีชีวิตที่ติดหล่มต่างกัน
ข่าวที่โด่งดังเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2566 จากกรณีหลวงปู่มหาทอง หรือพระมหาทอง บวชมาตั้งแต่อายุ 21 ปี มุ่งมั่นสอบเปรียญธรรมอย่างยาวนาน แต่ก็สอบไม่ได้ สู้เณร สู้พระสงฆ์อายุน้อย ๆ ไม่ได้จนเวลาผ่านไป 50 ปีก็ยังสอบไม่ได้
หลวงปู่มุ่งมั่นเรื่อยมาจนอายุ 90 ปี จึงสอบได้ เป็นข่าว และทำให้หลวงปู่ออกจากหล่ม
ในข่าวแจ้งว่า หลวงปู่มีแต่ความมุ่งมั่น มีแต่ความเพียร ไม่ทิ้งการเรียน ไปเรียนในที่ต่าง ๆ เสมอ เช่น วัดมหาธาตุโดยสมองไม่มีความคิดว่าทำไม่ได้เลย (ข่าวสดออนไลน์)
ความมุ่งมั่นของหลวงปู่ต่างจากพระรูปอื่น และต่างจากคนทั่วไปที่ส่วนใหญ่มักกล่าวคำที่เป็นลบบ่อย ๆ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ย่ำอยู่ในหล่มแห่งความล้มเหลวที่ตัวเองสร้างขึ้น เช่น คนจนที่ติดหล่มก็มักกล่าวว่า “ไม่มีเงินเก็บ ไม่มีเงินลงทุน ไม่มีเงินออมเพื่ออนาคต หรือมีแต่หนี้สิน”
ความจำเป็นของคนจนมีมาก ทุกเรื่องคือความจำเป็น เมื่อได้เงินมา 10,000 บาทก็ต้องใช้ให้หมด ไม่ใช้ไม่ได้ และกลับมาติดหล่มความจนเช่นเดิม แต่หากเปลี่ยนความคิดว่าได้เงิน 10,000 บาท ใช้หมดก็จน ใช้ให้เหลือออมบ้างก็ยังจน จะใช้แบบไหนก็ติดหล่มความจนเหมือนกัน
แต่ที่ต่างกันคือ คนจนที่มีเงินออมกับคนจนที่ไม่มีย่อมมีความสุขต่างกัน และความสุขนี่ล่ะที่ทำให้สมองแจ่มใส ไม่เครียด ได้คิด และได้นำชีวิตสู่อนาคตที่วาดหวังได้ง่ายกว่าเยอะ
เงิน 10,000 บาทที่ได้มา หากคิดก่อนใช้ มีแผน ใช้ตามที่จำเป็นที่สุด ใช้ให้เหลือเงินออม 500 บาทต่อเดือน มุ่งมั่น อดทน ทำให้ได้ ปีหนึ่งจะมีเงินออม 6,000 บาท ผ่านไป 5 ปีจะมีเงินออม 30,000 บาท คนจนก็ยังจนเหมือนเดิม แต่เป็นคนจนที่มีอนาคต และมีความสุขมากกว่ากันเยอะ
“ทำอย่างไรให้มีชีวิตอยู่ได้ในแต่ละวันด้วยเงินเพียงเท่านี้ ?” จึงเป็นความุ่งมั่นที่ต้องอดทน เวลา 5 ปีมีเงินออม 30,000 บาทที่ดูอย่างไรก็น้อยกว่าความอดทนของหลวงปู่ 50 ปี
การพูดลบ หรือการกล่าวคำปฏิเสธบ่อย ๆ จึงเป็นการตอกย้ำให้สมองของคนกล่าวจมอยู่กับสิ่งที่ทำไม่ได้ ทำให้สมองติดลบ ชีวิตก็ติดลบ และจมอยู่ในหล่มอย่างไม่สิ้นสุด
เมื่อใดเลิกกล่าว เมื่อนั้นความคิดลบจะออกไป ทัศนคติ วิสัยทัศน์ และวิธีการทำอย่างไรให้ได้จะผลุดขึ้นมาแทนคำว่า “ทำไม่ได้ ไม่รู้ ทำไม่ทัน ไม่มีคน ไม่มีเงิน”
เมื่อเริ่มคิดก็อาจคิดดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่แน่นอนว่าจะค่อย ๆ พัฒนาดีขึ้นแน่ ชีวิตที่ติดหล่มก็จะค่อย ๆ หลุดออกได้ สู่ควมเปลี่ยนแปลง สู่ความสำเร็จ สู่อนาคตที่ดีกว่า แม้จะต้องใช้เวลาถึง 50 ปีเช่นกรณีหลวงปู่มหาทองก็ตาม
ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
อ่านบทความอื่นที่เขียนโดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร ได้ที่ http://snp.co.th/e-journal/
Date Published : March 21, 2023
Logistics
ไต้หวันขาดไข่ไก่หนักมาก เตรียมเปิดให้นำเข้าจากไทยเป็นกรณีพิเศษ
ไต้หวันเกิดภาวะขาดแคลนไข่ไก่อย่างหนักหลังเกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกในไต้หวันในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ในระยะนี้ โดยจากสถิติจากสำนักงานสถิติและบัญชีกลางไต้หวันเผยว่า ดัชนีราคาไข่ไก่ในเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ถือเป็นการปรับเพิ่มเป็นตัวเลขสองหลักติดต่อกัน 16 เดือน และเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 40% ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา โดยผลผลิตไข่ไก่ของไต้หวันในสัปดาห์ที่ 10 ของปี (5-11 มีนาคม 2566) อยู่ที่ประมาณ 22.2 ล้านฟองต่อวัน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 200,000 ฟอง (สถิติของคณะกรรมการการเกษตรไต้หวัน) ในขณะที่ชาวไต้หวันบริโภคไข่ไก่สูงถึง 23.6-24 ล้านฟองต่อวัน
ปัจจุบัน ราคาค้าส่งไข่ไก่ในไต้หวันที่ประกาศ ณ วันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา เพิ่มมาอยู่ที่ 53 เหรียญไต้หวัน / 600 กรัม ถือเป็นราคาที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา การขาดแคลนไข่ไก่ทำให้ประชาชนชาวไต้หวันไม่พอใจเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา
โดยในเบื้องต้น คณะกรรมการการเกษตรไต้หวันได้อนุญาตให้ผู้ผลิตอาหารแปรรูปนำเข้าไข่ไก่สดจากออสเตรเลียจำนวน 5 ล้านฟอง ซึ่งได้มีการนำเข้าล็อตแรกจำนวน 360,000 ฟองตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว โดยล็อตที่ 2 และ 3 จะทยอยมาถึงไต้หวันในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ นอกจากนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างติดต่อสั่งซื้อจากผู้ส่งออกสหรัฐฯ ใน 19 มลรัฐที่มิใช่เขตระบาดของโรคไข้หวัดนก ในขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นห้ามการส่งออกไข่ไก่ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นไป
ล่าสุด คณะกรรมการการเกษตรไต้หวันได้พิจารณาเพิ่มแหล่งนำเข้าสินค้าเพื่อกระจายความเสี่ยงจึงเตรียมพิจารณาเปิดการนำเข้าจากไทย ฟิลิปปินส์ และตุรกี โดยได้มีการหารือกับกรมปศุสัตว์ของไทยเพื่ออนุญาตให้มีการนำเข้าไข่ไก่เป็นกรณีพิเศษ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึง 30 กันยายน 2566 โดยการส่งออกไข่ไก่มาไต้หวันจะต้องแนบเอกสารต้นฉบับใบรับรองสุขอนามัยผลิตภัณฑ์สัตว์ ซึ่ง BAPHIQ จะตรวจสอบทุกล็อตว่าสอดคล้องตามระเบียบของไต้หวัน และหลังผ่านการตรวจนำเข้าแล้ว สินค้าไข่ไก่สดที่นำเข้ามาจะต้องส่งมอบในบรรจุภัณฑ์เดิมไปยังโรงงานแปรรูปที่เป็นผู้นำเข้าเพื่อใช้ในผลิตหรือแปรรูปเท่านั้น โดยไม่สามารถส่งต่อไปให้โรงงานแห่งอื่นใช้งานได้
ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของ สคต.
การอนุญาตให้นำเข้าไข่ไก่สดจากไทยในครั้งนี้ เป็นการดำเนินมาตรชั่วคราวเพื่อบรรเทาความขาดแคลนในไต้หวันเท่านั้น ที่ผ่านมา ไทยไม่สามารถส่งออกเนื้อไก่และไข่ไก่สดไปยังไต้หวันได้ ทั้งนี้ ในอดีตไต้หวันเคยอนุญาตให้มีการนำเข้าเนื้อไก่ปรุงสุกจากไทยได้ แต่ได้ระงับการนำเข้าตั้งแต่ปี 2547 เนื่องจากไต้หวันเห็นว่าไทยเป็นเขตระบาดของโรคนิวคาสเซิลและไข้หวัดนก โดยหน่วยงานเกษตรของไทยจำเป็นต้องดำเนินการยื่นเอกสารทางเทคนิคให้ไต้หวันยอมรับว่าไทยเป็นเขตปลอดโรคนิวคาสเซิลและไข้หวัดนก เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกมายังไต้หวันได้แม้ในสถานการณ์ปกติ การที่ไต้หวันเกิดภาวะขาดแคลนไข่ไก่สดจนนำเป็นต้องเปิดให้มีการนำเข้าจากไทยจึงถือเป็นโอกาสอันดีที่หน่วยงานไทยจะเร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลให้ไต้หวันยอมรับว่าไทยเป็นเขตปลอดโรค อันจะเป็นการสร้างโอกาสทางการค้าในสินค้าที่เกี่ยวข้องของไทย
ที่มา: https://www.ditp.go.th/ditp_web61/article_sub_view.php?filename=contents_attach/978060/978060.pdf&title=978060&cate=413&d=0
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!