เวลา 04.00 น. เช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 14 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา โรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของซาอุดีอาระเบียถูกโดรนลึกลับ 10 ลำโจมตีจนเกิดระเบิดส่งผลให้โรงกลั่นทั้ง 2 ต้องหยุดการผลิต
MGR Online รายงานว่า กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนที่มีอิหร่านหนุนหลังได้ประกาศตัวเป็นผู้โจมตี
ผลของการโจมตีและการประกาศหยุดการกลั่นน้ำมันถูกคาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะสูงขึ้นพร้อม ๆ กับความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
ประเทศไทยแม้จะได้รับผลกระทบไม่มาก แต่ราคาน้ำมันดิบที่กำลังจะปรับตัวขึ้นย่อมส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจ การขนส่ง และ Logistics ไม่มากก็น้อย
วันนี้ ภาคอีสานของไทยกำลังประสบปัญหาอุทกภัยและปัญหาเศรษฐกิจที่ประชาชนได้เงินมาแต่ละเดือนไม่พอรายจ่าย เกิดปัญหาหนี้สินที่แก้อย่างไรก็แก้ไม่หมด และก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมา
ปัจจัยภายนอกประเทศทั้งสงครามสหรัฐกับจีน เกาหลีใต้กับญี่ปุ่นที่มีผลต่อการค้า การประท้วงในฮ่องกง และระเบิดในครั้งนี้ที่ตะวันออกกลางโดยไม่มีใครรู้ว่าจะเลยเถิดไปถึงไหนล้วนเป็นเครื่องบั่นทอนเศรษฐกิจโลกให้ถดถอยและกระหน่ำเศรษฐกิจของไทยให้ทรุดหนักยิ่งขึ้น
ปัจจัยภายนอกส่งผลต่อภายใน ปัจจัยภายในก็ส่งผลต่อสภาพสังคมและเศรษฐกิจ ต่าง ๆ นานาเหล่านี้ในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยล้วนต้องอาศัยการเมืองเป็นผู้แก้ไข
การเมืองเป็นผู้นำทางสังคม เศรษฐกิจ และเป็นผู้นำทางการเมืองเอง
การเมืองจึงมีความสำคัญของทุก ๆ ประเทศ

ประเทศไทยก็หนีไม่พ้นวัฏจักรนี้
ภายหลังการเลือกตั้ง ประเทศไทยได้คณะรัฐบาลบริหารประเทศท่ามกลางวิกฤติภายในรุมเร้า และสถานการณ์ภายนอกที่โหมกระหน่ำ
หากได้รัฐบาลมีความรู้ มีความสามารถ และมีความซื่อสัตย์สุจริต ปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจที่ประสบอยู่ก็คงได้รับการแก้ไขภายใต้หลักกฎหมาย
ในทำนองเดียวกัน หากฝ่ายค้านมีความรู้ มีความสามารถ และมีความตั้งใจใช้การเมืองแก้ปัญหาของประเทศภายใต้หลักกฎหมายเพื่อวิจารณ์ ติดตาม และตรวจสอบประสิทธิภาพและการทุจริตของรัฐบาลอย่างแท้จริง
เชื่อว่า ประเทศไทยคงฝ่าฟันวิกฤติต่าง ๆ ไปได้ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยภายนอกอย่างไร นี่คือ ‘การเมืองในฝัน’ ที่ประชาชนผู้ไม่นิยมความแตกแยกอยากได้
ประสิทธิภาพและการทุจริตเป็นหัวใจหลักในการบริหารประเทศ
แต่ภายหลังการเข้าบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ การตรวจสอบของฝ่ายค้านจากภาพและข่าวที่ปรากฎกลับไม่ได้มุ่งไปที่ประสิทธิภาพและการทุจริตมากนัก ไม่ได้มุ่งไปที่ปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ และไม่ได้มุ่งไปที่เรื่องสำคัญและเร่งด่วนของประเทศเช่นกัน
การทำงานของฝ่ายค้านกลับมุ่งไปที่การเมืองมากกว่าไม่ว่าจะเป็นปมถวายสัตย์ การชิงไหวพริบในสภา การโจมตีกันโดยไม่ยึดหลักกฎหมาย
ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้ประเทศไทยคล้ายกลับมาติดหล่มอีกครั้งภายหลังการเลือกตั้งจน ‘การเมืองในฝัน’ ของประชาชนห่างไกลจากความจริง
สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมากและมีทีท่าส่งผลเสียต่อประเทศไทย
‘การเมืองในฝัน’ ที่มีฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านร่วมมือกันภายใต้หลักกฎหมายเพื่อทำงานไปในทิศทางเดียวกันเท่านั้นจึงจะทำให้ปัญหาสังคมและเศรษฐกิจดีขึ้นได้
ครั้งนี้ การเลือกตั้งผ่านไปแล้ว หากผลสรุปมิใช่ ‘การเมืองในฝัน’ ที่แท้จริงก็คงเป็นเรื่องของประชาชนที่จะจำเป็นบทเรียนเพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้าต่อไป

ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร