SNP NEWS

ฉบับที่ 397

Article

“หาผัวฝรั่ง”

maxresdefault

“ฉันอยากมีผัวฝรั่งรวย ๆ”
“ทำไมเธอคิดแบบนี้ ฝรั่งเลว ๆ หลอกลวงหญิงไทยมีมาก แล้วเธอจะไปหาผัวฝรั่งที่ดีและรวยได้ที่ไหน”
“ก็หาตาม Facebook นี่ละ เห็นมีเข้ามาจีบกันมาก ตอนนี้มีอยู่รายหนึ่งจะส่งตั๋วเครื่องบินให้ฉันบินไปหาด้วย”
“นี่เธอ มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก เธอยังไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย แน่ใจนะว่าไม่ถูกหลอก”
“แน่ใจซิ คุยกันมาหลายเดือนแล้ว เขาส่งรูปมาเป็นทหารหล่อมาก แล้วยังส่งรูปพ่อแม่มาให้ดูอีก ดูเขาจริงใจดี แถมบอกรัก บอกอยากกอดตลอดเวลา และสัญญาว่าเราจะแต่งงานกัน มันดูอบอุ่นโรแมนติกมาก”

ทุกวันนี้ หญิงไทยมีแนวโน้มอยากมีผัวฝรั่งมากขึ้น มันต่างจากหญิงไทยบางคนที่รู้จักกับฝรั่งมาก่อน อาจเรียนหนังสือด้วยกัน หรือทำงานด้วยกันจนกลายเป็นความผูกพัน เป็นความรักแบบต่างเชื้อชาติ และแต่งงานกันในที่สุด
แบบนี้ถือเป็นธรรมชาติที่ดีที่สุด มันเป็นพรหมลิขิตชักพา
ตรงกันข้าม หญิงไทยบางคนไม่มีความผูกพันมาก่อน อาจเป็นหม้ายลูกติด อาจหวังได้ประโยชน์จึงพยายามหาผัวฝรั่งเพื่อให้ตนเองและลูกได้ดิบได้ดีขึ้นมา การติดต่อทาง Facebook จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หญิงบางคนต้องการแต่เงิน และคิดเองว่าฝรั่งรวยเลยอยากได้ผัวฝรั่งโดยไม่เคยคิดเลยว่า หากฝรั่งรวยจริงเขาคงไม่เอาเงินมาทิ้งที่เมืองไทยหรอก อย่างน้อยเขาก็มีพ่อมีแม่และมีญาติพี่น้องที่เป็นเชื้อชาติเดียวกัน
หญิงไทยบางคนมีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่แล้วและมีความรู้ภาษาอังกฤษแบบงู ๆ ปลา ๆ แต่เที่ยวบอกสามีว่าอยากฝึกภาษาอังกฤษ
เลยเอาเวลากลางคืนแอบติดต่อกับฝรั่งทาง Facebook หรือ Line ทางหนึ่งหญิงนี้ได้ฝึกภาษาอังกฤษจริง แต่อีกทางหนึ่งก็ถูกฝรั่งป้อนคำหวานเยินยอ คำว่ารัก คำว่าอยากอด คำว่าอยากแต่งงาน จนเคลิบเคลิ้ม
หญิงไทยกลุ่มนี้จะปิดบังไม่ยอมให้สามีได้อ่านข้อความที่คุย แต่จะเก็บข้อความนั้นมาโอ้อวดเพื่อน ๆ และเคลิบเคลิ้มเพียงคนเดียว
หญิงไทยกลุ่มนี้ไม่โง่จึงเอาแต่รูปตัวเองลงใน Facebook ไม่ยอมเอารูปของลูกและสามีลงด้วยเพื่อไม่ให้ฝรั่งรู้ว่า ตนเองมีครอบครัวแล้ว
หญิงไทยบางคนโดนคำหวานมาก ๆ เข้าถึงกับทิ้งครอบครัวไปหาความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ก็มีให้เห็น มันเข้าตำรา ต่างคนต่างก็หลอกกัน
แต่ไม่ว่าจะหลอกกันอย่างไร หญิงไทยที่ฉลาดแสนฉลาดก็ไม่มีวันได้เปรียบฝรั่งแต่อย่างไร
ไม่แน่ว่าหญิงไทยกลุ่มนี้ก็อาจหลงเสน่ห์ที่เสียเงินเสียทองและอาจต้องเสียตัวจนครอบครัวแตกแยกไปเลยก็มี

ฝรั่งที่ดีก็พอมี แต่ฝรั่งเลวที่หลอกลวงตามสื่อออนไลน์น่าจะมีมากกว่าหลายเท่าตัวตามการเตือนในโลกออนไลน์ แล้วทำไมฝรั่งจึงเลือกหญิงไทยเป็นเป้าหมาย ???
เหตุผลง่าย ๆ คือ หญิงไทยขี้เหงา ใจอ่อน บางรายต้องการเพื่อนคุยในขณะที่บางรายต้องการเงินด้วย ฝรั่งไม่ใช่คนโง่ รู้จุดอ่อนนี้ดีก็เลยเข้ามาทำตัวเป็นฮีโร่ปลอบใจ
ฝรั่งที่เลวรู้ว่าหญิงไทยกลุ่มนี้มีปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาจิตใจ พอหยอดคำหวานนิดหน่อยก็ได้แล้ว
ฝรั่งที่หวังได้เงินก็สร้างเรื่องต่าง ๆ นานาเพื่อให้หญิงไทยโอนเงินไป ส่วนฝรั่งที่อยากได้ตัวด้วยก็พยายามนัดหมายขอพบ แล้วก็ทำทุกวิธีทางเพื่อให้เกิดเพศสัมพันธ์
หญิงไทยบางรายถูกถ่ายภาพขณะมีเพศสัมพันธ์เก็บไว้และโดนแบล็คเมล์ที่มีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็มาก แต่สุดท้าย ไม่ว่าข่าวจะออกมาอย่างไร หญิงไทยก็ยังอยากติดต่อกับฝรั่งต่างชาติอยู่ดี
มันดูเท่ห์ มันทำให้ตนเองดูเหนือกว่าหญิงไทยอื่น ๆ มันเป็นการโอ้อวดบนกองเพลิงกับคำว่ารัก อยากกอด และคิดถึงจากฝรั่งจอมลวง

ฝ่ายฝรั่งก็ใช่ย่อย ฝรั่งเลวทุกรายจะใช้รูปอื่นคนอื่นที่หล่อเหลามาลงใน Facebook หรือ Line ฝรั่งเลวทุกรายมักจะออกค่าตั๋วเครื่องบินให้ฝ่ายหญิงบินไปหา
ฝรั่งเลวหลายคนขอแต่งงานกับหญิงไทยที่ติดต่อกันทางสื่อออนไลน์ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้า
มันไม่ใช่ว่า ฝรั่งโง่ที่ขอแต่งงานโดยไม่รู้จัก แต่เขามีวาระซ่อนเร้นต่างหาก
ตรงกันข้าม หญิงไทยอาจโง่แบบไม่รู้ตัวที่ปล่อยให้คำลวงมาหลอนหลอกไปวัน ๆ สมมติว่าหญิงไทยหลงเชื่อแล้วบินไปหา อะไรจะเกิดขึ้นตามมา ???
ทางหนึ่ง ฝรั่งอาจขอหญิงไทยให้แต่งงานอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขบนกองเงินกองทองที่ฝรั่งเตรียมไว้ให้โดยไม่มีใครรู้ว่านิยายแบบนี้จะมีจริงหรือไม่ ???
อีกทางหนึ่ง ฝรั่งเลวก็อาจกักขังหญิงไทยไว้เป็นทาษอารมณ์และการใช้งานเรื่อยไปตามเรื่องราวที่สื่อพยายามตีแผ่
หญิงไทยบางรายถูกหลอกให้โอนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไปให้ก่อน ทั้ง ๆ ที่หญิงก็มีการศึกษาระดับปริญญา แต่ก็ไม่วายถูกหลอกด้วยเหตุผลง่าย ๆ เพียงความคิดอยากมีผัวฝรั่งเท่านั้น จนอาจต้องเสียตัวให้ฝรั่งต่างชาติฟรี ๆ
หญิงไทยผู้หนึ่งเคยเล่าให้กลุ่มเพื่อน ๆ ฟังว่า ในตอนใหม่ ๆ ที่แต่งงานกับฝรั่ง อะไร ๆ ก็ดูดีไปหมด พอผ่านระยะเวลาหนึ่ง ฝรั่งชอบจัดปาร์ตี้ในหมู่เพื่อน ๆ
กลุ่มเพื่อนผู้ชายก็จะพาภรรยามามีเซ็กแบบมั่วเป็นกลุ่มที่เธอรับไม่ได้ ต่อมาเธอก็ถูกสามีฝรั่งบังคับให้ร่วมเซ็กหมู่ที่ไม่ต่างอะไรไปจากโสเภณีอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ
ฝรั่งต่างชาติที่ดี ๆ ก็มีถมไป แต่ทำไมฝรั่งดี ๆ จึงต้องมาหาหญิงไทยผ่านทาง Facebook หรือ Line มาเป็นเมีย ???
นี่คือคำถามที่หญิงไทยน่าจะหาคำตอบได้ไม่ยาก

บทความใน htttp://th-th.www.facebook.com,note,scam ได้กล่าวถึงพฤติกรรมที่หลอกลวงลักษณะนี้ว่า Scammer
บทความให้ความหมายว่า มันคือการหลอกลวงทั้งทางธุรกิจและทางเพศโดยมีหญิงไทยขี้เหงา ใจอ่อน และนิยมของนอกเป็นเป้าหมาย
ฝรั่งซาตานจะมาในรูปเทพบุตร มีการจัดทำ Profile ดี ๆ แล้วทำทีเข้ามาแอดเป็นเพื่อน ทักแชทใน Facebook หยอดคำหวานด้วยคำว่า “Honey, Darling”
ฝรั่งที่อยู่ใน Scammer มักจะใช้คำคล้าย ๆ กันเช่น I love you, hug you, will marry you และคำหวานอื่น ๆ เป็นต้น
จากนั้นก็ใช้จิตวิทยาขั้นสูงหลอกให้เหยื่อตกหลุมรัก แล้วหญิงไทยก็เป็นเหยื่อตกหลุมรักมากด้วยแล้วก็จะเดินเกมเล่นกับความรู้สึกด้วยการโน้มน้าวสารพัดวิธีจนอีกฝ่ายหญิงใจอ่อนยอมโอนเงินหมื่น เงินแสนให้กับฝรั่ง
ฝรั่ง Scammer บางรายแฝงตัวอยู่ประเทศไทยก็อาศัยคารมที่ดีหลอกล่อนัดหมายให้มาพบกันแล้วก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมทุกอย่างให้เกิดการเสียตัวจนถึงการถ่ายภาพไว้
หญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อ ส่วนใหญ่มักเป็นหญิงขี้เหงา วัยกลางคน วัยทำงาน บางคนเป็นหญิงม่าย อยากหาเพื่อน อยากหาแฟน หรืออยากหาผัวฝรั่ง
นี่คือบทความในโลกไซเบอร์ที่เฝ้าเตือนกัน แต่ไม่ว่าจะเตือนอย่างไร สุดท้ายก็มีหญิงไทยตกเป็นเหยื่ออยู่เกือบทุกวัน
มันเป็นต้นเหตุของปัญหาสังคม การแตกแยกในครอบครัว การหลอกลวง แต่ทำไมหน่วยงานของรัฐไม่ลุกขึ้นมาจัดการให้จริงจัง
รัฐบาลจะเอาอย่างไร หรือจะปล่อยพวก scammer ให้ลอยนวลอย่างนี้
มันเห็น ๆ กันอยู่ว่ามีการหลอกลวง มีการเตือนกันโดยเอกชนในโลกออนไลน์ แต่พลังก็ไม่หนักเท่ารัฐบาล
วันนี้ หากหน่วยงานของรัฐไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างไร การหลอกลวงจากการหาผัวฝรั่งก็จะเกิดขึ้นไม่รู้จบ โดยไม่มีใครรู้ว่า มันจะก่อปัญหาสังคมให้มากขึ้นขนาดไหน
ขอเพียงรัฐบาลขยับ ปัญหาสังคมเหล่านี้ก็จะเบาบางลง
การอยากได้ผัวฝรั่งทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักไม่ใช่สิ่งผิด แต่สิ่งที่ผิดคือ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันเป็นการหลอกลวง มันเป็น Scammer แต่รัฐบาลกลับขยับตัวช้าเกินไปเท่านั้น

สิทธิชัย ชวรางกูร

The Logistics

51420110201201800

เปิดภาพคอนเซ็ปต์หรูของเรือ “ไททานิค 2” เตรียมล่องทะเลปี 2561

ภาพคอนเซ็ปต์ของเรือ “ไททานิค 2” ที่บรรจงเก็บรายละเอียดเหมือนเรือลำเดิม เพิ่มเติมคือความหรูหราอลังการงานสร้างและระบบความปลอดภัยสุดเข้ม
เรียกได้ว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน สำหรับเรือไททานิคสุดโด่งดัง ที่จมลงก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อปี 1912 จนกลายเป็นตำนานเล่าขานมาหลายรุ่นอายุคน และยังมีการสร้างภาพยนตร์เพื่อตอกย้ำความโด่งดังของเรือลำนี้ด้วย และเร็ว ๆ นี้ เราจะได้เห็นเรือไททานิคกลับมาโลดแล่นบนท้องทะเลอีกครั้ง จากฝีมือของบริษัทเรือสำราญชื่อดังอย่าง Blue Star Line ของออสเตรเลีย ที่ประกาศกร้าวแล้วว่า เรือไททานิค 2 จะล่องทะเลแน่นอนในปี 2561
เว็บไซต์มิเรอร์ จึงได้นำเสนอเรื่องราวความเป็นมา และภาพคอนเซ็ปต์อาร์ตของเรือไททานิค 2 เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 โดยระบุว่า เรือไททานิคลำใหม่นี้ จะคงความเป็นไททานิคเหมือนเดิมแทบทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งห้องอาหารสุดหรู และห้องสระว่ายน้ำที่คงความวินเทจไว้ได้อย่างดี
แต่สิ่งที่เพิ่มเติมมาคือระบบรักษาความปลอดภัยและระบบเดินเรือแบบสมัยใหม่ อาทิ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ และเรือยางที่มีจำนวนพอเพียงสำหรับผู้โดยสารทุกคน ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ต้องลงไปนอนที่ก้นมหาสมุทรอย่างลำเก่าแน่นอน
เรือไททานิค 2 สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 2,435 คน และลูกเรืออีก 900 คน คาดว่างบประมาณสำหรับการสร้างเรือในตำนานลำนี้ จะอยู่ที่ 300-400 ล้านปอนด์เลยทีเดียว (ราว 1 หมื่น 5 พันล้าน ถึง 2 หมื่นล้านบาท)

ที่มา : http://www.marinerthai.net/forum/index.php?topic=7699.0

AEC Info

tnews_1444295942_1516

สมคิด’ สั่งการบินไทยทำงานเชิงรุก พร้อม ขยายเส้นทางเชื่อม AEC

‘สมคิด’ เผย ผลการทำงานการบินไทยมีทิศทางดีขึ้น เชื่อ ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว พร้อมสั่งนโยบายทำงานเชิงรุก ขยายเส้นทางเชื่อมต่อไปยังประเทศในกลุ่ม AEC ได้ทั้งหมด

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับฟังแนวทางการทำงานของ บมจ.การบินไทย (THAI) และมอบนโยบายแนวทางการทำงาน ซึ่งการบินไทยได้มีการรายงานตัวเลขผลการดำเนินงาน โดยทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้น สามารถหยุดยั้งการขาดทุนของการบินไทยได้ โดยมองว่าการบินไทยผ่านช่วงจุดต่ำสุดไปแล้ว และเข้าใจว่าปีนี้การบินไทยจะมีกำไรจากนี้ไป 5-10 ปีหน้า

ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายว่า สิ่งสำคัญนอกเหนือจากการควบคุมค่าใช้จ่าย ต้องมีการทำงานเชิงรุกในการเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับสายการบินอื่นได้ ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการบินไทย หากสิ่งใดที่เห็นว่าจำเป็นก็ให้จัดทำแผนงานมานำเสนอ แต่ต้องมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งทางการบินไทยจะเสนอแผนยุทธศาสตร์เชิงรุก ซึ่งเป็นแผนในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า เพื่อจะนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.)

นอกจากนี้ มองว่าโลเคชั่นของไทยมีความได้เปรียบ สามารถเป็นจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อไปยังประเทศ ในกลุ่ม AEC ได้ทั้งหมด จึงมอบนโยบายให้ทางการบินไทยไปหารือกับกระทรวงท่องเที่ยวฯ ในการจัดหาเส้นทางที่ควรจะมีการเชื่อมต่อเมืองหลักในกลุ่มอาเซียน รวมถึงต้องเชื่อมโยงเมืองใหญ่ๆ ในเอเชีย ในส่วนของยุโรปหากเห็นว่าเมืองใดที่ทำแล้วคุ้มก็สามารถทำต่อไปได้ และสิ่งสำคัญที่สุดการบินไทยต้องรักษามาตรฐานคุณภาพ เรื่องความปลอดภัย รวมถึงต้องปรับปรุงเรื่องคุณภาพอาหารเสิร์ฟบนเครื่อง.

ที่มา www.thairath.co.th

คุยข่าวเศรษฐกิจ

399f7cc

ฟังอีกมุม! กัปตัน แจง หากนักบินไม่ได้มาตรฐาน คงไม่ขึ้นบินแต่แรก

มุม กัปตัน มองเหตุสายการบินยกเลิกเที่ยวบินเป็นเรื่องภายในองค์กร แจง หากนักบินไม่ได้มาตรฐาน สายการบินคงไม่ปล่อยให้ขึ้นบินแต่แรก ระบุ ควรพิจารณาดูวิธีการสอนว่าแต่ละแห่งทำกันอย่างไร แนะ องค์กรควรเปิดให้นักบินได้สื่อสารบ้าง เมื่อเกิดปัญหาควรรับฟัง แก้ปัญหาร่วมกัน…

วันที่ 15 ก.พ.59 ภายหลังที่สายการบินนกแอร์ ยกเลิก 9 เที่ยวบิน จนส่งผลให้ผู้โดยสารหลายคนเกิดความเดือดร้อน และได้มีการโพสต์แถลงการณ์ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าว เมื่อเช้า (15 ก.พ.) ที่ผ่านมา ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นจากความไม่พอใจของนักบินบางส่วน ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์การตรวจสอบของสายการบิน เนื่องมาจากสายการบินอยู่ในระหว่างการดำเนินการยกระดับมาตรฐานในระบบปฏิบัติการ เพื่อยกระดับการจัดการมาตรฐานความปลอดภัยของสายการบิน ให้ตอบสนองกับ IOSA ซึ่งเป็นระบบตรวจรับรองคุณภาพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

ล่าสุด “ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์” ได้ติดต่อไปยัง กัปตัน ของสายการบินหนึ่ง เพื่อรับฟังอีกมุมมองที่มีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเปิดเผยว่า “อยู่ๆ สายการบิน คงไม่มาบอกว่านักบินไม่ได้มาตรฐาน เพราะผู้โดยสารคงหายหมด จึงไม่แน่ใจว่า การที่พูดออกมาแบบนั้น เป็นการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันเอง หรือมีอะไรผิดพลาดหรือไม่ นักบินที่สายการบินส่งขึ้นไปบิน ต้องดูแลเครื่องบินลำละหลายพันล้าน ชีวิตผู้โดยสารอีกหลายร้อยคน ฉะนั้น นักบินที่ขึ้นไปบิน ต้องได้มาตรฐาน ผมเข้าใจว่าแบบนั้น”

กัปตันคนเดิม ยังกล่าวอีกว่า “มาตรฐานต่างๆ เวลาจะให้ผ่านหรือไม่ผ่านได้นั้น ต้องผ่านการฝึก การสอน การอบรมมาอย่างดี ฉะนั้น ถ้าสอนดีแล้ว และยิ่งปัจจุบันนักบินขาดแคลน คงไม่มีใครอยากให้นักบินขาด ก็ต้องสอน และถ้าขนาดที่ว่าสอนแล้วยังไม่ผ่าน ก็คงไม่ปล่อยให้ขึ้นไปบินแต่แรกแน่ๆ ผมจึงคิดว่า ต้องไปมองที่สายการบินแต่ละแห่ง ดูที่รายละเอียดแล้วล่ะว่า เแต่ละแห่งเขามีวิธีฝึก วิธีสอนให้เป็นไปตามมาตรฐานอย่างไร ก็คงเป็นปัญหาภายในมากกว่า”

“สายการบินในปัจจุบันเกิดขึ้นมาเยอะ นักบินก็มีหลากหลาย สายการบินก็ควรเปิดโอกาสให้นักบินมีโอกาสสื่อสารด้วย เพราะว่าการบังคับใช้กฎระเบียบ การปรับเปลี่ยนสภาพการทำงานต่างๆ ถ้าเกิดมีตัวแทนในการเข้ามาพูดคุย หรือว่าเจรจา ปัญหาต่างๆ คงไม่มาถึงจุดๆ นี้ และอยากให้สายการบินที่เป็นนายจ้าง รับฟังข้อคิดเห็นต่างๆ ว่าพนักงาน หรือ นักบินมีความคิดเห็นอย่างไร มองว่า ไม่ว่าองค์กรจะเกิดปัญหาอะไร ควรแก้ปัญหาร่วมกัน” กัปตันคนดังกล่าวระบุ

ที่มา http://www.thairath.co.th/