CEO ARTICLE

ไทยจะได้อะไร


Follow Us :

    

“ทรัมป์เป็นคนฉลาด ในคืนวันเลือกตั้งเขามาประกาศชัยชนะเลยทั้ง ๆ ที่ผลยังไม่ได้ออกมาด้วยซ้ำ แต่นี่เป็นการกระตุ้นอารมณ์ฝ่ายที่สนับสนุนว่า ถ้าเขาแพ้แสดงว่าเขาถูกโกง เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกาที่ไม่ทำตามกฎ และที่สำคัญไม่มีมารยาททางการเมือง เขาประกาศแต่แรกแล้วว่าถ้าเขาแพ้เขาจะไม่ยอมรับ ซึ่งตามธรรมเนียมแล้วถ้าคะแนนออกมาเกิน 270 อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องออกมาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้” บีบีซี (ไทย) ให้ข้อมูลข้างต้น

การกระตุ้นอารมณ์ฝ่ายสนับสนุนทำให้เกิดม็อบต่อต้านผลการเลือกตั้งไปทั่ว ทรัมป์มุ่งไปที่ผลที่ต้องการโดยไม่สนใจวิธีการ ภาพและข่าวการประท้วงจึงเกิดขึ้นทั่วสหรัฐ
ตลอดระยะเวลา 4 ปีของการดำรงตำแหน่ง ทรัมป์แข็งกร้าวไปทุกเรื่องเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย “America First” ที่เขาใช้โดยไม่สนใจผลกระทบ
ทรัมป์ไม่สนใจคำเตือนขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในการป้องกัน Covid-19 จนคนอเมริกันติดเชื้อมากที่สุด ทรัมป์ถอนตัวออกจากการเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อกดดันจีนที่กำลังเติบโตและประเทศอื่น แต่ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกรวมทั้งการส่งออกของไทย
ที่ผ่านมา ทรัมป์มีท่าทีไม่เป็นมิตรกับไทยและประเทศอื่นที่ใกล้ชิดกับจีน ล่าสุดก็ยังตัดสิทธิ์ GSP ไทยรอบ 2 ที่จะมีผลในวันที่ 30 ธ.ค. 63 โดยกล่าวหาไทยไม่เปิดเสรีนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐทั้งที่ไทยอธิบายถึงการใช้สารเร่งเนื้อแดงที่อาจเกิดอันตรายต่อการบริโภคก็ตาม
โจ ไบเดนจึงได้ใจประเทศต่าง ๆ มากกว่า แต่ไทยจะได้อะไรบ้างหากโจ ไบเดนเป็นผู้นำ ?

หากโจ ไบเดนขึ้นมาเป็นผู้นำและสถานการณ์การติดเชื้อ Covid-19 ไม่มีทีท่าจะดีขึ้น เชื่อว่า สหรัฐอาจมีการประกาศล็อกดาวน์เมืองต่าง ๆ ตามแบบประเทศทางยุโรป
ขณะที่ไทยควบคุม Covid-19 ได้เป็นที่ 1 ของโลก (news.thaipbs.or.th) ไทยจึงน่าจะเป็นที่กล่าวถึงในทางที่ดี
ด้านนโยบายการต่างประเทศ สหรัฐมีหน่วยงานมากมายเป็นผู้กำหนดแนวทาง
นโยบายคง “ไม่เปลี่ยนแปลง” การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจึงยังเป็นภัยคุมคามสหรัฐเพียงแต่ทรัมป์ทำอะไรเหมือนเด็กที่เอาแต่ใจ อยากขึ้นภาษีสินค้าจากจีนก็ขึ้นเป็นว่าเล่น เดี๋ยวก็ลดภาษี นักวิจารณ์บางท่านถึงกับใช้คำว่า “ป่าเถื่อน” ก็มี
โจ ไบเดนมีท่าทีอ่อนโยน ชอบการเจรจา ประนีประนอม และประกาศจะพิจารณากลับเข้าเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจกับประเทศต่าง ๆ
คำว่า “หุ้นส่วนเศรษฐกิจ” ย่อมให้ประโยชน์ต่อประเทศที่เป็นหุ้นส่วนด้วยกัน ดังนั้น ไทยที่เป็นหุ้นส่วนหลายข้อตกลงจึงได้ประโยชน์ตามไปด้วย
โจ ไบเดนใช้นโยบาย “Buy American” ในการหาเสียงโดยขอให้ “คนอเมริกันซื้อสินค้าที่ผลิตโดยคนอเมริกัน” เพื่อส่งเสริมการผลิตภายในประเทศและต่อสู้กับสินค้าจีนที่มีราคาถูกกว่า
หากจะใช้นโยบายนี้ มาตรการกระตุ้นการซื้อสินค้าอเมริกันอีกมากก็คงออกมา แต่สหรัฐมีคนหลายเชื้อชาติ คนเอเชียและจีนก็มีไม่น้อย ขณะที่สินค้าจีนที่มีราคาถูก มีลูกเล่น คนอเมริกันจะยังซื้อสินค้าจากจีนหรือไม่จึงเป็นอีกเรื่องน่าคิด
นโยบายหาเสียงก็คือ นโยบายหาเสียง จึงเชื่อว่า นอกจากสงครามการค้าสหรัฐจีนจะผ่อนคลายลงแล้ว สินค้าจีนก็น่าจะขายได้ในสหรัฐตามไปด้วย
แต่ไม่ว่าจะเป็นการผลิตที่ถูกกระตุ้น หรือการแข่งขันกับจีนที่ผ่อนคลาย ไทยในฐานะห่วงโซ่อุปทานและศูนย์กลางโลจิสติกส์ของอาเชียน ไทยก็จะได้อานิสงส์ การส่งออกและโลจิสติกส์ของไทยก็น่าจะดีขึ้นตามเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ที่กำลังจะผ่อนคลาย
ด้านการเมืองระหว่างประเทศ ข่าวซุปซิบว่า สหรัฐมีหน่วยงานแทรกแซงเพื่อผลประโยชน์ตนเองซึ่งมาชัดเจนในยุคทรัมป์กรณีฮ่องกง
ข่าวแจ้งว่า สหรัฐอยู่เบื้องหลังม็อบเยาวชนในฮ่องกงเพื่อกดดันจีนโดยอ้างประชาธิปไตย แต่เมื่อม็อบกำลังจะแพ้ ทรัมป์ก็ขอให้สภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนการประท้วงในฮ่องกง (Hong Kong Human Rights and Democracy Act) ด้วยคะแนนเสียง 417 ต่อ 1
กฎหมายนี้ช็อกคนทั้งโลกเพราะให้สิทธิ์สหรัฐในการแทรกแซงและใช้กำลังอย่างเปิดเผย ถูกกฎหมายสหรัฐ แต่รุกล้ำอธิปไตยประเทศอื่นและผิดมารยาทการเมืองระหว่างประเทศ
ขณะที่สื่อต่าง ๆ เสนอว่าโจ ไบเดน มีท่าทีนุ่มนวล นิยมใช้การทูตมากกว่า การแทรกแซงประเทศต่าง ๆ เช่น ในตะวันออกกลาง เอเชีย และไทยที่มีข่าวว่าทำอย่างลับ ๆ ก็น่าจะผ่อนคลาย
นี่คือเหตุผลที่โจ ไบเดน ได้ใจประเทศต่าง ๆ มากกว่า และไทยก็น่าจะได้ประโยชน์มากกว่า ได้โอกาสทบทวน GSP ที่ถูกตัด และได้สานความสัมพันธ์ที่ถดถอยในยุคทรัมป์ให้ดีขึ้น
แต่สหรัฐก็คือสหรัฐ การเมืองก็คือการเมือง และการเมืองที่แท้จริงต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศก่อน
ดังนั้น ใจที่ประเทศต่าง ๆ ให้กับโจ ไบเดนในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างที่ใจหวังไว้หรือไม่ ประเทศไทยและผู้ประกอบการก็คงได้แต่ติดตามต่อไป

ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
CEO – SNP Group

อ่านบทความอื่นที่เขียนโดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร ได้ที่ http://snp.co.th/e-journal/

Dr. Sitthichai  Chawaranggoon
Dr. Sitthichai ChawaranggoonChief Executive Officer (CEO) - S.N.P. GROUP

Logistics

ดีเดย์ 1 ธ.ค. ห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป วิ่งเข้ากรุง 6 โมงเช้า-3 ทุ่ม แก้ฝุ่นพิษ PM 2.5

กทม. เผย ดีเดย์ 1 ธ.ค. สั่งห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป วิ่งเข้ากรุง 6 โมงเช้า-3 ทุ่ม แก้ฝุ่นพิษ PM 2.5 เริ่ม 1 ธ.ค.2563-สิ้นเดือน ก.พ.2564

วันที่ 27 ต.ค.2563 ที่ท่าเรือวัดกำแพง เขตบางขุนเทียน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา กรมโรงงานอุตสาหกรรม ตร. บก.จร. และกรมการขนส่งทางบก เตรียมความพร้อมในการป้องกันและรับมือค่าฝุ่นสูงที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่สภาพอากาศปิดระหว่างเดือนธ.ค.2563 – ก.พ.2564

โดยปีนี้ กทม.ร่วมกับบก.จร. จะออกคำสั่งห้ามรถยนต์บรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปวิ่งเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วงเวลา 06.00-21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 63 – สิ้นเดือน ก.พ. 64 เพื่อลดมลพิษ PM2.5 จากควันรถ รวมถึงงดการจัดกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมทั้งขอความร่วมมือสถานศึกษา ให้งดจัดกิจกรรมในที่โล่งแจ้งในช่วงเดือนธ.ค. 63 – ก.พ. 64 เช่นเดียวกัน

หากสถานการณ์วิกฤตและค่าฝุ่นสูงต่อเนื่องเกิน 3 วัน จะพิจารณาให้ปิดโรงเรียนตามความเหมาะสมซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนการก่อสร้างต่างๆ เช่น อาคารขนาดใหญ่ และรถไฟฟ้า ในช่วงวิกฤติที่มีปริมาณฝุ่นสูงจะห้ามไม่ให้มีการก่อสร้างบริเวณนอกอาคาร เพื่อป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย แต่ในพื้นที่ปิดภายในอาคารยังสามารถทำได้

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า สิ่งที่กทม.ได้ดำเนินการไปแล้ว ได้ติดตั้งสถานีตรวจวัดค่าฝุ่นละอองครบทั้ง 50 เขตแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตั้งบริเวณสวนสาธารณะเพิ่มเติมอีก 20 แห่ง เพื่อให้ประชาชนที่ไปใช้พื้นที่ออกกำลังกายได้รับทราบข้อมูลคุณภาพอากาศภายในสวนสาธารณะว่าสามารถออกกำลังกายได้หรือไม่ เพราะการใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 ตลอดเวลาขณะออกกำลังกาย อาจทำให้ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

สำหรับมาตรการอื่นๆ ที่กทม.ดำเนินการในรอบปีที่ผ่านมา จะดำเนินการต่อเนื่องต่อไป เช่น การปลูกไม้ยืนต้น 2 ฝั่งถนนที่สร้างใหม่ และปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับฝุ่นบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าในเส้นทางต่างๆ ให้มากที่สุด การพ่นละอองน้ำในอากาศ การล้างทำความสะอาดถนนและใบไม้ และการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ ล้อ ราง เรือ

อย่างไรก็ตามประชาชนสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ดังนี้ เว็บไซต์ www.bangkokairquality.com เฟซบุ๊ค : กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และเฟซบุ๊ก : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ แอปพลิเคชัน AirBKK ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้แล้วทั้งระบบ android และ ios

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_5196830

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.