CEO ARTICLE

ใครทำน้าค่อม

Published on May 4, 2021


Follow Us :

    

ช็อก !!! โควิด-19 พรากชีวิต “น้าค่อม” ชวนชื่น
แพทย์ยันต้องระวัง เชื้อตัวนี้รุนแรงมาก

หัวข่าวข้างต้นปรากฎขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่วันศุกร์ที่ 30 เม.ย. 64 ที่ทุกสำนักข่าวต่างเสนออย่างต่อเนื่องทั้งวัน บรรดาแฟน ๆ น้าค่อมที่ติดตามพากันช็อกกับข่าว
“ไอ้ sus” แม้เป็นคำหยาบ แต่กลับถูกโพสต์เพื่อรำลึกถึงน้าค่อม ทุกคนอยากให้น้าค่อมตื่นขึ้นมากล่าวคำนี้ใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากคำนี้ออกจากปากน้าค่อมวันนี้คือคำจากสวรรค์ยิ่งกว่าคำใด
“ต่อแต่นี้ คนไทยจะไม่มีน้าค่อมที่สร้างเสียงหัวเราะให้อีกแล้ว”
“เอาชีวิตนักการเมืองเลว ๆ ไปแทนน้าค่อมยังดีเสียกว่า”
ต่าง ๆ นานาคำพูดลักษณะนี้เกิดขึ้นตามแต่มุมมองของแต่ละคน
ตั้งแต่สงกรานต์ปี 2564 คนไทยมีแต่กักตัว มีแต่สูญเสีย มีแต่เศร้า ไม่ใช่เพียงน้าค่อม แต่ยังมีคนติดเชื้อ Covid-19 ทั้งที่รอดชีวิตและเสียชีวิตอีกมาก
น้าค่อมไปแล้ว แต่ทำให้เห็นว่า พื้นฐานคนไทยส่วนใหญ่มีพลังรักที่บริสุทธิ์ ไม่แบ่งแยก แต่การเมืองทำให้แบ่งแยก และก็การเมืองอีกนั่นล่ะที่โยงน้าค่อมไปกับคำถามทางการเมืองจนได้
“ใครทำร้ายน้าค่อม … ใครทำน้าค่อม ?”

น้าค่อม หรือนายอาคม ปรีดากุล อายุ 63 ปี ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ Covid-19 เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 64 และจากข่าวคาดว่าน่าจะติดเชื้อจากการร่วมงานกับบอล เชิญยิ้ม และแจ๊ส ชวนชื่นซึ่งติดเชื้อไปก่อนหน้า
น้าค่อมมีโรคประจำตัว อายุมาก ติดเชื้อจากการทำงาน รักษาตัวเพียง 19 วันก็เสียชีวิต
หากน้าค่อมไม่ไปทำงาน คงไม่ติดเชื้อ แต่เมื่อมองลึกลงไปหากนักธุรกิจที่กลับจากกัมพูชากักตัว รู้หน้าที่ ไม่ไปเที่ยวทองหล่อ หากสถานบันเทิงไม่ฝืนสังคม นักการเมืองและเจ้าหน้าที่บางคนไม่รับส่วย การแพร่กระจายช่วงก่อนสงกรานต์ก็คงไม่มาก
ตั้งแต่สัญญานเตือนภัยระลอก 2 จากตลาดกุ้งสมุทรสาครและบ่อนการพนัน หากคนไทยส่วนใหญ่การ์ดไม่ตก ไม่ประมาท การแพร่กระจายตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมก็คงไม่หนัก
หากรัฐบาลมีเงินมาก ๆ จัดหาวัคซีนได้มากกว่านี้ ได้เร็วกว่านี้ บริหารจัดการให้ดีกว่านี้ ไม่เกรงใจพรรคพวก หรือฝ่ายค้านไม่เอาแต่เล่นการเมือง แต่ช่วยกันนำประชาชนให้เดินถูกต้อง คนละไม้คนละมือ การแพร่ระบาดระลอก 3 ก็คงควบคุมได้ดีกว่านี้
ในมุมการเมืองโลก คนที่เชื่อว่าจีนคือต้นทางของเชื้อก็อยากให้จีนควบคุมได้ดีกว่านี้ ไม่ให้แพร่กระจายไปทั่วโลก ส่วนคนที่เชื่อว่าสหรัฐคือต้นทางก็อยากให้สหรัฐไม่นำเชื้อไปแพร่ที่อู่หั่น เชื้อจะได้ไม่เกิดขึ้นและกระจายไปกว่าร้อยล้านคนที่รวมเอาคนไทยและน้าค่อมไปด้วย
หากจะมองว่า ประเทศต่าง ๆ มีรวย มีจน มีวัฒนธรรม มีการเมือง มีการแก่งแย่ง มีการทำร้าย และมีการดำรงชีวิตแตกต่างกัน เชื้อจึงกระจายไร้การควบคุมอย่างที่เห็น
หากจะมองว่าสังคมไทยไร้ระเบียบ ไม่เคารพกฎเกณฑ์ แอบจัดปาร์ตี้ สังสรรค์ แอบดื่ม มือใครยาวสาวได้สาวเอา มีสิ่งผิดกฎหมายมาก มีการรับส่วย นักการเมืองเอาแต่ชิงอำนาจ ไม่ปกป้องผลประโยชน์ประชาชนอย่างแท้จริง สังคมไทยแบบนี้ก็ต้องได้เศรษฐกิจและได้การเมืองแบบนี้ การแพร่กระจายเชื้อจึงต้องเป็นแบบนี้
แนวคิดเหล่านี้พูดได้สนุกปาก ยกมาเป็นเหตุของน้าค่อมได้หมด แต่จะจริงหรือไม่ก็อีกเรื่อง
น้าค่อมเสียชีวิตจาก Civid-19 แต่เพราะสังคมไทยเป็นแบบนี้จึงทำให้มหาอำนาจและเชื้อร้ายแทรกซึมได้อย่างที่เห็น คนไทยและน้าค่อมจึงหนีลำบาก ต้องติดกับและติดเชื้อ
ในทำนองเดียวกัน สังคมไทยแบบนี้ก็ทำให้ได้ฝ่ายค้านแบบนี้ ได้รัฐบาลแบบนี้ และได้การบริหารจัดการแบบนี้
วันนี้เห็นได้ชัดว่า สังคมไทยมีความรักบริสุทธิ์เป็นพื้นฐาน การอาลัยน้าค่อมจึงเกิดขึ้นในวงกว้าง แต่เพราะการเมืองและผลประโยชน์ที่ทำให้ความรักบริสุทธ์ถูกด้อยค่า และถูกนำไปใช้
หากการเมืองยังนำประชาชนไปในทางที่ถูกที่ควรไม่ได้ แบบนี้ไม่ว่าศึกสงครามไหน ไม่ว่าเชื้อจะแพร่ระบาดในรูปใด คนไทยทุกคนรวมทั้งน้าค่อมก็มีสิทธิ์โดนกระทำแบบนี้ไม่สิ้นสุด
ถามว่า ใครคือสังคมไทยแบบนี้ ???
คำตอบคือ คนไทยทุกคนนั่นล่ะ คนไทยที่รักน้าค่อม และเพราะรักมากคนไทยจึงต้องหาอะไรสักอย่างมาเป็นแพะ ฟาดงวงฟาดงาให้รับบาปให้สาสมกับความรัก
น้าค่อมไม่ได้ทำร้ายตัวเองแน่ ๆ และสังคมไทยก็ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายน้าค่อมแน่ ๆ
แต่เพราะคนไทยส่วนหนึ่งไม่แคร์ส่วนรวมแบบนี้ คนไทยส่วนนี้ต่างหากที่ทำให้เชื้อกระจาย ทำร้ายน้าค่อม และคนบริสุทธิ์โดยไม่ตั้งใจ
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ใส่ใจสังคม ไม่เคารพกฎหมาย ไม่กักตัว ไม่สวมหน้ากากอนามัย เอาแต่ใจตัวเอง คุณย่อมเป็นคนหนึ่งที่ร่วมทำร้ายน้าค่อมและคนบริสุทธิ์ทุก ๆ คน
“ใครทำน้าค่อม ???” คำตอบน่าจะอยู่ในใจคนไทยทุกคนแล้ว !!!

ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร
CEO – SNP Group

อ่านบทความอื่นที่เขียนโดย ดร. สิทธิชัย ชวรางกูร ได้ที่ http://snp.co.th/e-journal/

Date Published : May 4, 2021

Dr. Sitthichai  Chawaranggoon
Dr. Sitthichai ChawaranggoonChief Executive Officer (CEO) - SNP GROUP

Logistics

กทท.พร้อมปรับ “โกดังสเตเดียม” เป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับคลัสเตอร์ “ชุมชนคลองเตย”

“อธิรัฐ” ลงพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพตรวจ “โกดังสเตเดียม” กทท.พร้อมสนับสนุนปรับ “โกดังสเตเดียม” เป็นโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมจากวัดสะพานรองรับผู้ป่วยโควิด-19 คลัสเตอร์ชุมชนคลองเตยในอนาคต คาดรองรับได้ 160 เตียง ส่วนวัดสะพานรับได้ 100 เตียง

วันที่ 3 พ.ค. เวลา 10.00 น. ณ ท่าเรือกรุงเทพ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่โกดังสเตเดียมของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และวัดสะพาน เพื่อดูความเหมาะสมในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามสำหรับดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ตามที่ได้รับการประสานขอใช้เป็นโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยโควิด-19 จากพื้นที่ชุมชนคลองเตย โดยจากการสำรวจพื้นที่และการประชุมร่วมกันมีข้อสรุปในเบื้องต้นว่า ในระยะเร่งด่วนใช้พื้นที่วัดสะพานเป็นโรงพยาบาลสนาม เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องของสถานที่และความเหมาะสมทางด้านสาธารณูปโภค ซึ่งขณะนี้รองรับได้ 100 เตียง

ส่วนของโกดังสเตเดียม การท่าเรือฯ ยินดีให้การสนับสนุน โดยต้องมีการปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อให้มีความพร้อมในการดำเนินงานดังกล่าวทั้งในส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน และสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการปรับปรุง โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานสาธารณสุขเร่งประเมินถึงความเหมาะสมของสถานที่อาคารโกดังสเตเดียม
ทั้งนี้ กทท.พร้อมสนับสนุนอาคารโกดังสเตเดียม เนื้อที่รวม 15 ไร่ มีพื้นที่ภายในอาคาร 4,200 ตร.ม. กว้าง 35 ม. ยาว 120 ม. ด้านกระทรวงกลาโหมพร้อมดำเนินการปรับปรุงสถานที่ และจัดหาอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวก การวางระบบให้สามารถรองรับเตียงผู้ป่วยจำนวน 160 เตียง และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์พร้อมเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายในการดูแล ทั้งบุคลากร และอุปกรณ์ทางการแพทย์

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ได้ให้หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม ศูนย์สาธารณสุข 41 กรุงเทพมหานคร สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ดำเนินการประเมินความเหมาะสมของพื้นที่ฯ ในการจัดตั้งศูนย์พักคอย และโรงพยาบาลสนาม เพื่อหาข้อสรุป และนำมาพิจารณาในการดำเนินการโดยเร่งด่วนต่อไป

ในการลงพื้นที่และประชุมหารือครั้งนี้ มี พลเรือเอก โสภณ วัฒนมงคล ประธานกรรมการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการ การท่าเรือฯ เรือโท ดร.ชำนาญ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการ การท่าเรือฯ สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ ผู้แทนสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การท่าเรือฯ รวมถึง นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตคลองเตย พรรคพลังประชารัฐ พลโท ชิดชนก นุชฉายา เจ้ากรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้แทนหน่วยงานกระทรวงกลาโหม นายแพทย์ วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ วรการ โตวายุนันทะ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์สาธารณสุข 41 กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตคลองเตย สถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ เข้าร่วมหาแนวทางด้วย

ที่มา : https://mgronline.com/business/detail/9640000042146

0 replies

Leave a Reply

Want to join the discussion?
Feel free to contribute!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.